svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เมื่อ "กะเทยไทย" ถูกทำร้ายสะท้อนสังคมกดทับคนข้ามเพศถึงเวลาหาทางออก

05 มีนาคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์" แนะทุกฝ่ายแยกแยะเหตุ "กะเทยไทย" ปะทะ "กะเทยฟิลิปปินส์" แต่เป็นเรื่องสะท้อนถึงสังคมกดทับ ขอรัฐสางปัญหาโครงสร้าง แนะรัฐควรมีกฎหมายค้าบริการได้รับการคุ้มครองเหมือนทุกอาชีพ

5 มีนาคม 2567 กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงเป็นวงกว้างต่อการเปิดศึกกันระหว่าง "กะเทยไทย" กับ "กะเทยฟิลิปปินส์" จนมีการติดแฮชแท็กบนโลกโซเชียลมีเดียว่าเป็น "วันกะเทยผ่านศึก"

เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจากชนวนเหตุก่อนหน้านี้ที่กลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์ กว่า 20 คน ยกพวกรุมทำร้ายกะเทยไทย กระทั่งต่อมากะเทยไทย มีการรวมตัวบริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในสุขุมวิท 11 เพื่อเคลียร์กับกลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์ แต่เรื่องราวกับบานปลายสู่การลงไม้ลงมือกัน

กะเทยวิวาทต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 กลุ่ม

โดย "นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์" สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น จะต้องแยกเป็นหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งเรื่องแรกมีการตอบโต้ มีวิวาทะ มีการโพสต์ และพูดถึงความเป็นชาติ ดังนั้น เวลาใช้คำว่าชาติไทย ชาติฟิลิปปินส์ จึงไปกระตุ้นความเป็นชาตินิยมขึ้นมา

ทั้งนี้ ในความเป็นจริงแล้ว กลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์กลุ่มนั้น ไม่ได้เป็นตัวแทนของกะเทยฟิลิปินส์ทั้งหมด จึงต้องให้ความเป็นธรรมกับกลุ่มคนที่เป็นฟิลิปปินส์ด้วย แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่ากะเทยกลุ่มดังกล่าว ได้เหยียดคนไทย หรือมีการใส่ร้ายกะเทยไทย และขโมยของและเรื่องอื่น ๆ ซึ่งเมื่อมีการเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ ก็เหมือนกับเป็นการโพสต์เรียกแขกที่เป็นกะเทยคนไทย

 

สะท้อนสังคมกดทับคนข้ามเพศ

นอกจากนี้ ที่สำคัญกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ โดยเฉพาะคนข้ามเพศ อยู่ในสถานะที่สังคมไม่ค่อยได้ให้โอกาสในพื้นที่หรือยอมรับ จึงเป็นเหมือนกับปัจจัยที่กดดันหลาย ๆ อย่าง เสมือนหลังชนฝา จึงเป็นเรื่องที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรม

ส่วนกรณีที่เริ่มมีการตอบโต้ผ่านสื่อสังคมออนไลน์กันมากขึ้นนั้น อยากขอให้ทุกคนที่เสพสื่อให้มีสติ ว่าความจริงแล้ว เป็นเรื่องของคนกลุ่มหนึ่งที่ใช้วิวาทะตอบโต้ หรือใช้การเหยียดคนไทย จึงอยากให้แยกแยะ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล ซึ่งต้องค่อย ๆ ทำความเข้าใจ 

ขณะเดียวกัน ที่สำคัญจะต้องร่วมกันหาทางออก เพราะความจริงแล้วปัญหานี้ เกิดขึ้นเพราะว่ามีเรื่องของการ "กดทับ" ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกะเทย หรืออาชีพบริการทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นที่สีเทา ที่มีระบบมาเฟียดูแล ทำให้กลุ่มคนที่ประกอบอาชีพ ไม่มีพื้นที่ที่จะเรียกร้องความเป็นธรรม จนมีคำพูดว่า เป็นศาลเตี้ย ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมกดทับคนเหล่านี้ 

"ก้าวไกล" เล็งชงกฎหมายคุ้มครองพนักงานบริการ

อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกลได้ยกร่างกฎหมายเกี่ยวกับการค้าบริการทางเพศแล้ว และมูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการสวิง หรือ Service Workers in Group Foundation โดยมีข้อเสนอที่เกี่ยวข้องกับการยกเลิกและปราบปรามการค้าประเวณี ซึ่งได้มีการยื่นข้อเสนอให้กับ "นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี ไปเรียบร้อยแล้ว

 

"หากมีการเสนอกฎหมายนี้ ก็พร้อมที่จะเสนอกฎหมายประกบ และมูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ ซึ่งทำงานร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก็บอกว่า จะต้องมีกฎหมายคุ้มครองเกี่ยวกับพนักงานบริการ ดังนั้น จึงคิดว่า รัฐมีหน้าสำคัญ ที่จะต้องให้ 2 กลุ่มมาพูดคุยกัน เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด และผลักดันกฎหมาย เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร" นายธัญวัจน์ ระบุ


เสียงกรีดร้องของความไม่เป็นธรรม

สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นส่งผลต่อภาพพจน์ของคนข้ามเพศหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับคนตีความ ซึ่งในส่วนของตนมองว่าเป็นการต่อสู้ และเป็นเสียงกรีดร้องของความไม่เป็นธรรม และเห็นว่าภาพที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เรื่องเสียหาย

 

"ทุกฝ่ายควรมองภายใต้เสียงร้องและความโกรธเกรี้ยวว่า ได้มีการปกป้องดูแลคนเหล่านั้น ในฐานะที่รัฐให้สิทธิ์คนเหล่านั้นแค่ไหน ปล่อยให้ไปอยู่ใต้ระบบมาเฟีย ถูกเอาเปรียบในทุกทาง และไม่สามารถแจ้งความตำรวจได้ เพราะผิดกฎหมาย ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเสมือนภูเขาน้ำแข็งมากกว่า จึงเห็นว่า อยากให้ทุกฝ่ายมาร่วมกันแก้ไขปัญหา" นายธัญวัจน์ กล่าว 


ส่วนเรื่องที่มองเป็นการเสียภาพพจน์ และเสียโอกาสการจัดงานไพรด์นั้น ซึ่งมั่นใจว่า สิ่งนี้เป็นภาพของการต่อสู้ และคิดว่างานไพรด์ เป็นภาพของคนที่ไม่ได้สิทธิ์ และไม่ได้รับความเป็นธรรมลุกขึ้นมาเดิน เพื่อที่จะให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม และเห็นว่าเป็นเรื่องที่รัฐจะต้องหยิบประเด็นเหล่านี้ขึ้นมาแก้ไข และเห็นว่าการที่มีกะเทยลุกขึ้นมาบอกว่า ตัวเองเสียประโยชน์ และไม่ได้รับสิทธิ์เท่าเทียมถือเป็นเรื่องที่ดี

"อุ๊งอิ๊งค์" ชู 2 นิ้วโป้งย้ำอย่าท้าทายอำนาจกะเทย

ด้าน "น.ส.แพทองธาร ชินวัตร" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า "ได้ดูข่าวนี้แล้ว"

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธาร ชูนิ้วโป้งทำสัญลักษณ์ยอดเยี่ยม และบอกว่า "ระบบกะเทยนะคะ" ก่อนถามว่า "อย่าท้าทายอำนาจกะเทย ต้องใช้คำนี้ใช่มั๊ย ได้ฟังเมื่อเช้าแล้วโดนใจ"

ไม่ควรมีคนไทยถูกทำร้ายในประเทศจากต่างชาติ

ขณะที่ "นายทวีชัย วงศ์ไพโรจน์กุล" รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวยืนยันว่า เข้าใจถึงความรู้สึกของ LGBTQ+ชาวไทย ที่รวมพลังปกป้องศักดิ์ศรีของตนเอง และช่วยเหลือกันจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ จนปรากฏเป็นข่าวออกไปอย่างกว้างขวาง โดยได้แสดงพลังทวงคืนศักดิ์ศรี หลังถูกกะเทยฟิลิปปินส์ รุมทำร้ายก่อน 

ทั้งนี้ ส่วนตัวขอแสดงความห่วงใยและเข้าใจในสถานการณ์ โดยเฉพาะการใช้ความรุนแรง อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด แม้กะเทยชาวไทย จะถูกทำร้ายจากชาวต่างชาติก่อนก็ตาม ซึ่งเชื่อว่าทุกคนเห็นตรงกันว่า ในประเทศไทยไม่ควรมีใครถูกทำร้าย โดยเฉพาะคนไทย ซึ่งมาจากการกระทำของชาวต่างชาติ ที่อาศัยประเทศไทยหากิน แต่ยังกระทำผิดกฎหมาย 

ตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมายจริงจัง

อย่างไรก็ตาม เห็นว่าการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด และเป็นทางออกของเรื่องนี้ได้  คือ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานโดยเฉพาะตำรวจ ต้องเข้าระงับเหตุอย่างทันท่วงที และบังคับใช้มาตรการอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันสถานการณ์ไม่ให้บานปลาย เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่บังคับใช้กฎหมาย หรือมีการบังคับใช้กฎหมายที่ล่าช้า อาจเป็นเหตุให้สถานการณ์ดังกล่าวยืดเยื้อ จนนำมาสู่การทะเลาะวิวาท ของชาว LGBTQ+ ได้

 

"ขอให้เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นบทเรียนกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่า การบังคับใช้กฎหมายต้องเป็นธรรมรวดเร็ว เพื่อสร้างความยุติธรรมกับประชาชนพร้อมๆกับการทำหน้าที่อย่างสุจริต ไม่ขาดตกบกพร่อง เพื่อให้ตำรวจนั้นเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง และทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ไม่ถูกตั้งคำถามจากประชาชน ว่าต้องการปกป้องผู้กระทำความผิด หรือมีการเรียกรับผลประโยชน์จากการกระทำความผิดหรือไม่" นายทวีชัย กล่าว


พบค้าบริการแนะมีกฎหมายคุ้มครอง Sex Worker

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพบว่ามีการค้าบริการของกะเทยชาวฟิลิปปินส์และยังเป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่า เมืองไทยมีการค้าบริการ ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติอยู่จริง จึงขอเรียกร้องไปยังฝ่ายบริหารบ้านเมือง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องพิจารณาการผลักดันให้ Sex Worker หรือพนักงานบริการถูกกฎหมาย ให้พนักงานบริการเหล่านี้ มีสิทธิ ศักดิ์ศรี และการได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายอย่างถูกต้องไม่ต่างจากอาชีพอื่น 

 

"ในฐานะที่ทำงานด้านความเสมอภาคทางเพศและความเท่าเทียมทางสังคม และรองโฆษกพรรค ขอแสดงความเป็นห่วงต่อผู้ได้รับผลกระทบทุกฝ่าย และฝากข้อพิจารณาดำเนินการอย่างรอบคอบไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขอส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวเราทุกคน ที่กำลังต่อสู้เพื่อความยุติธรรม และความเท่าเทียมทางเพศ" รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย ระบุ

 

logoline