svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

ครูบาไก่ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาของ อิคคิว ระบุมีหลักฐานพร้อมชี้แจงทุกเรื่อง

26 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ครูบาไก่ ปฏิเสธ ทุกข้อร้องเรียนของอิคคิวและบุ๋ม ระบุ ทุกเรื่องสามารถชี้แจงได้พร้อมหลักฐาน ทั้งเรื่องบุกรุกที่ดินป่าไม้ ส่วนคลิป ลูกศิษย์นำมาให้ดูก่อนเป็นข่าวแล้ว ไม่คิดว่าจะเอาไปร้องเรียนเพราะไม่ใช่ตัวเอง

26 มกราคม 2566 จากกรณี น.ส.วาสนา หรือ อิคคิว อายุ 33 ปี และ น.ส.คมคาย หรือบุ๋ม อายุ 43 ปี อดีตโยมอุปัฏฐาก พระสุวิทย์ ชินวโร หรือ ครูบาไก่ ประธานที่พักสงฆ์ วัดป่าปฐมเทวาราม อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น นำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับภาพลับของครูบาไก่ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ต่อมา "ครูบาไก่" ได้แถลงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมมอบหมายให้ทนายความ เข้าแจ้งความเอาผิด กับอิคคิวและบุ๋ม พร้อมพวกอีก 2 คน

ล่าสุด "อิคคิว" และ "บุ๋ม" ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส.และปปง. เพื่อให้ตรวจสอบที่ดินสำนักงานสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม รุกเขตป่าไม้ วานนี้( 25 ม.ค.)

ชี้แจงเขตที่ดินสร้างวัด

วันนี้(26 ม.ค.)  ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม หรือวัดครูบาไก่ เพื่อสอบถามกรณีที่อิคคิวและบุ๋ม ร้องเรียนที่กองปราบและ ปปง. เพื่อให้ตรวจสอบว่าวัดบุกรุกที่ป่าไม้ รวมถึงกรณีคลิปชายคนหนึ่ง โกนผมโกนคิ้ว ระบุว่า เป็นครูบาไก่ กำลังมีเพศสัมพันธุ์กับผู้ชาย โดยมีญาติโยมและลูกศิษย์มานั่งดูการให้สัมภาษณ์ของครูบาไก่ด้วย

พร้อมขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าว อยากให้ช่วยให้ความเป็นธรรมกับครูบาไก่ เพราะหลักฐานต่างๆ ที่อีกฝ่ายนำมาโจมตีนั้นมีแต่เรื่องเท็จ ไม่มีหลักฐานที่เป็นจริง อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบประวัติกลุ่มคนเหล่านี้ด้วย เพราะมีประวัติไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่มีชาวบ้านที่จะกล้าเปิดหน้าออกมาให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ขณะที่ ครูบาไก่ มีสีหน้านิ่งปกติเหมือนทุกครั้งที่ผู้สื่อข่าวเดินทางมาพบ และนำหลักฐานเรื่องการตั้งที่พักสงฆ์และการขอดำเนินการสร้างวัดป่ามาให้ผู้สื่อข่าวดู เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงในเรื่องของการสร้างวัดมีหลักฐานอย่างถูกต้อง และไม่มีความกังวลว่าจะมีหลักฐานอื่นๆขึ้นมาอีก ซึ่งครูบาไก่เองก็เคยกล่าวไว้ว่าหากมีหลักฐานอะไร ก็ให้เอาออกมาทั้งหมดพร้อมกัน จะได้ชี้แจงไปในคราวเดียว

ครูบาไก่ กล่าวว่า ทางวัดมีหลักฐานยืนยันชัดเจน ตั้งแต่บุกเบิกหาที่ดิน จนมาถึงการก่อสร้างในปัจจุบัน มีหลักฐานในการทำทุกขั้นตอนถูกต้องทั้งหมด  จึงคิดว่าไม่มีความผิดเพราะไม่ได้ตั้งอยู่ในเขตของป่าไม้ ตามที่ถูกร้องเรียน เพราะมีขอบเขตที่แบ่งแนว โดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทำการรังวัดเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว 

เนื่องจากมีเรื่องร้องเรียนกันมาก่อนๆที่จะมาสร้างที่พักสงฆ์แห่งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ได้มีการตรวจสอบแล้ว ยืนยันได้ว่าอยู่นอกเขตป่าไม้ พร้อมทั้งปักแนวเขตอย่างเรียบร้อยโดยมีป่าเป็นแนวเขต และครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่มีการร้องเรียน เรื่องเดิมก็ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ลงมาตรวจสอบเหมือนเดิมและก็ถือเป็นการดีที่มีทางเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ พิสูจน์อีกครั้งหนึ่ง จะได้รู้แน่ชัดไปเลยว่า แนวเขตปัจจุบันนั้นถูกต้องหรือไม่ วัดได้ลุกล้ำที่ป่าไม้หรือไม่ หรือทำถูกต้องทั้งหมดแล้ว  เรื่องดังกล่าวจะได้ชัดเจนมากขึ้น

ยันทุกเรื่องมีหลักฐานชี้แจง

ช่วงที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ลงพื้นที่ตรวจสอบครั้งแรกนั้น ได้แนะนำว่าห้ามก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ภายในเขตป่าไม้ เรื่องนี้ทางวัดเองก็ทราบดี เพราะเป็นเรื่องของกฎหมาย คงไม่มีใครอยากทำผิดกฏหมายอย่างแน่นอน โดยสิ่งปลูกสร้างที่สร้างอยู่ปัจจุบันนี้อยู่นอกเขตของป่าไม้ ซึ่งเป็นที่ดิน สปก. ที่ชาวบ้านได้ถวายให้วัดได้สร้าง บริเวณที่สร้างวิหารนั้นก็มีโฉนดถูกต้องโดยญาติโยมสายบุญผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันซื้อถวายให้กับวัด เพื่อทำนุบำรุงพุทธศาสนา อย่างก็ตามต้องรอเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบยืนยันแนวเขตอีกครั้ง

สำหรับพื้นที่วัดมีไม่ถึง 100 ไร่ ที่ดินตรงที่นำไปร้องเรียนนั้นเป็นที่ ส.ป.ก.เนื้อที่ 31 ไร่ เจ้าหน้าที่เคยแนะนำว่า หากจะสร้างวัดก็สามารถทำได้โดยจะแบ่งที่ ส.ป.ก.ให้ 15 ไร่ตามระเบียบกฎหมายที่กำหนดในการสร้างวัด แต่วัดได้ใช้ที่ดินที่มีโฉนดในการขอสร้างวัด ซึ่งเป็นที่ดินคนละแปลงกับที่ส.ป.ก. โดยมีเนื้อที่ 12 ไร่ เป็นที่ดินใบจอง นส.2 ที่ชาวบ้านนำมาถวาย มีเอกสารสิทธิ์ครอบครองอย่างถูกต้อง 

ในกรณีที่สงสัยนั้น ส่วนตัวรู้อยู่แล้วว่า หากรุกล้ำในเขตป่าไม้เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย การดำเนินการตั้งแต่ต้นจึงได้หารือกับทางเจ้าหน้าที่ รวมทั้งสอบถามว่าสามารถวัดได้ตรงไหนบ้าง จึงมีการแบ่งแนวเขตชัดเจน และที่ดินที่สร้างวัดนั้นมีทั้งที่ดินใบจอง นส.2 ที่ดินส.ป.ก.และที่ดินที่ญาติโยมร่วมทำบุญซื้อถวาย ยืนยันว่าโปร่งใสตรวจสอบได้ทั้งหมด

พร้อมกันนี้ครูบาไก่ กล่าวถึงกรณีที่มีคลิปลักษณะคล้ายพระสงฆ์ กำลังร่วมรักกับชายหนุ่ม ว่าลูกศิษย์ได้นำมาให้ดูก่อนที่จะเป็นข่าวอีก ยืนยันไม่ใช่ตัวเอง ส่วนหลักฐานทุกอย่างที่ อิคคิว นำไปร้องเรียนนั้น อาตมาก็มีหลักฐานทุกอย่างที่พร้อมจะให้ตรวจสอบและพร้อมที่จะชี้แจง ทุกอย่าง โดยไม่รู้สึกกังวลกับการที่ถูกร้องเรียน เพราะอาตมาก็ไม่ได้ทำอะไรตามที่ถูกกล่าวหา ทุกอย่างให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย

ครูบาไก่ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาของ อิคคิว ระบุมีหลักฐานพร้อมชี้แจงทุกเรื่อง

ส่วนการเปิดรับบริจาคสร้างท้าวเวสสุวรรณนั้น อิคคิว และบุ๋ม ได้มาขอเป็นเจ้าภาพเพื่อสร้าง ท้าวเวสสุวรรณ สองตนสูง 8 เมตร พร้อมกับศาลา ตอนนั้น คิดว่า ทั้งสองคนจะนำเงินตัวเองมาสร้าง สุดท้ายเป็นการร่วมทำบุญใครสนใจที่จะสร้าง ก็ร่วมบริจาคเข้ามาในบัญชีอิคคิว จนถึงปัจจุบันก็ไม่เห็นมีการก่อสร้าง มีเพียงเสาเข็ม ส่วนเงินที่ได้จากการบริจาค

“มีการอ้างว่า โอนเข้ามาในบัญชีวัดนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะบัญชีนั้นเป็นของ อิคคิว เงินก็ต้องเข้าบัญชี อิคคิว ทางวัดให้ใช้สถานที่ ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการก่อสร้างดังกล่าว”

อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ (27 ม.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่นได้เรียก อิคคิวและบุ๋ม พร้อมลูกศิษย์อีกสองคนมาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา ตามที่ครูบาไก่ได้แต่งตั้งทนายเข้าแจ้งความเอาไว้ก่อนหน้านี้

logoline