สตีเฟน แมคครอว์ อธิบดีกรมปลอดภัยสาธารณะของรัฐเท็กซัส แถลงเมื่อวันศุกร์เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในการรับมือเหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถมรอบบ์ ในเมืองยูวัลดี เมื่อวันอังคารว่า เป็นการ ตัดสินใจผิดและไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ เขาระบุว่าหัวหน้าตำรวจเขตการศึกษาท้องที่ ซึ่งเป็น ผู้บัญชาการในสถานที่เกิดเหตุ เชื่อว่าซัลวาดอร์ รามอส มือปืนวัย 18 ปี ถูกขังอยู่ในห้องเรียนและเป็นสถานการณ์ที่มือปืนไม่มีการเคลื่อนไหวแล้ว และเชื่อว่าเด็กนักเรียนที่อยู่อีกห้องหนึ่งไม่อยู่ในความเสี่ยง โดยมีตำรวจ 19 นาย เฝ้ารออยู่ที่โถงทางเดินนอกห้องเรียนนาน 48 นาที เพื่อรอกำลังเสริมจากตำรวจตระเวนชายแดน และใช้กุญแจเปิดเข้าไปในห้องเพื่อเผชิญหน้ากับมือปืน
นอกจากนี้แมคครอว์เปิดเผยไทม์ไลน์ของเหตุการณ์ด้วยว่า รามอสเข้าไปในโรงเรียนเมื่อเวลา 11.33 น. ผ่านประตูหลังของโรงเรียนที่ครูเปิดไว้ก่อนหน้านี้ เข้าไปยังห้องเรียนและยิงไปกว่า 100 นัด ก่อนที่ตำรวจบุกเข้าในห้องเรียนเมื่อเวลา 12.51 น. และวิสามัญมือปืน เขาระบุด้วยว่าในระหว่างนั้นนับตั้งแต่ 12.03 น. มีเด็กนักเรียนหญิงโทรศัพท์แจ้ง 911 หลายครั้ง ว่ามีคนเสียชีวิตและมีนักเรียนที่ยังมีชีวิตอยู่ติดอยู่ในห้องเรียน พร้อมทั้งร้องขอให้ส่งตำรวจเข้าไปเดี๋ยวนี้ และมีเด็กหญิงอีกคนในห้องเรียนอีกห้องหนึ่งโทรแจ้งตำรวจด้วยเช่นกัน และหลังจากมือปืนถูกยิงเสียชีวิต ตำรวจพบว่าเขาซื้อกระสุนปืนไว้ถึง 1,657 นัด และพกซองกระสุน 58 อัน ไปที่โรงเรียน
การแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์มีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ใช้เวลา 3 วัน ให้ข้อมูลที่ขัดแย้งกันและไม่ครบถ้วนเกี่ยวกับช่วงเวลาเกือบ 90 นาที ที่มือปืนอยู่ในโรงเรียนและสังหารหมู่นักเรียน 19 คน และครูอีก 2 คน จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญ ความล่าช้าของปฏิบัติการจุดชนวนให้เกิดความโกรธแค้นจากครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายและสังคม และการตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย