ทางการรัฐเท็กซัสกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนการทำงานของตำรวจยูวัลดี ในการรับมือเหตุการณ์สังหารหมู่ที่ Robb Elementary School ท่ามกลางความไม่พอใจของพ่อแม่ที่สูญเสีย หลังจากมีรายงานความคืบหน้าปรากฏขึ้นมาเรื่อย ๆ ว่า ซัลวาดอร์ รามอส คนร้ายวัย 18 ปี ได้ขับรถปิกอัพไปใกล้ด้านหลังโรงเรียนเวลา 11.28 น. ของวันอังคาร ก่อนใช้ปืน AR-15 ยิงใส่คน 2 คน ที่ออกมาจากสถานที่เก็บศพที่อยู่ใกล้เคียง จากนั้นเขาได้เข้าไปในโรงเรียนโดย "ไร้การขัดขวาง" และผ่านเข้าประตูที่ไม่ได้ล็อกเมื่อเวลา 11.40 น. ท่ามกลางรายงานที่สับสนว่าตอนนั้นโรงเรียนมีตำรวจอารักขา หรือ SRO (School Resource Officer) อยู่หรือไม่
ที่จริงมีตำรวจ 2 นาย ที่กำลังไล่ล่าเขา เพราะรามอสยิงยายของตัวเองจนกระสุนเจาะเข้าที่แก้มด้านหนึ่ง ไปทะลุใต้ใบหูของใบหน้าอีกด้านหนึ่ง หลังทะเลาะกันเรื่องบิลค่าโทรศัพท์ ยายของเขาโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ซึ่งตอนนี้อาการของเธอปลอดภัยแล้วและสามารถสื่อสารได้ด้วยการเขียน ส่วนจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากโรงเรียนไม่ถึง 8 กิโลเมตร แต่กว่าตำรวจจะไปถึงก็ล่วงเวลาไป 12 นาที แต่ก็ไม่ได้เข้าไปในทันที จนเวลาผ่านไปอีก 4 นาที จึงเข้าไป แต่ก็ต้องถอยร่นออกมาหาที่หลบเพราะถูกรามอสยิงสวนออกมา
สื่อท้องถิ่นรายงานว่าหลังจากเข้าไปในโรงเรียน รามอสหลบอยู่ในห้องเรียนของเกรด 4 ที่เขาเพิ่งยิงเด็ก 19 คน และครู 2 คน แหล่งข่าวระบุด้วยว่าตำรวจพยายามจะเข้าไปในห้องเรียนแต่ไม่มีกุญแจ ท่ามกลางคำถามที่ว่าเหตุใดจึงต้องรอกุญแจโดยปล่อยให้เด็ก ๆ ติดอยู่กับคนร้าย ซึ่งเด็กบางคนต้องเอาตัวรอดด้วยการเอาเลือดของเพื่อนมาทาตัว ตำรวจอ้างว่าได้เรียกกำลังเสริม เจ้าหน้าที่เจรจาและหน่วยยุทธวิธี ก่อนที่วิกฤตจะสิ้นสุดลงเมื่อหน่วยยุทธวิธีของกำลังรักษาลาดตระเวณชายแดนจะบุกเข้าไปในอีก 1 ชั่วโมงต่อมา หรือประมาณ 12.45 น. และยิงคนร้าย ซึ่งวิทยุสื่อสารรายงานว่ารามอสเสียชีวิตเมื่อเวลา 12.58 น.