"Everytown for Gun Safety" องค์การเคลื่อนไหวเพื่อยุติความรุนแรงจากอาวุธปืนและผลักดันให้ออกกฎหมายที่เข้มงวดยิ่งขึ้นเพื่อควบคุมการขายอาวุธปืน เปิดเผยตัวเลขที่น่าตกใจเกี่ยวกับเหยื่อกระสุนปืนในสหรัฐฯ ว่า มีผู้ที่เสียชีวิตเพราะความรุนแรงจากปืนในทุก ๆ ปี เกือบ 41,000 คน เฉลี่ยวันละ 111 คน โดยเฉพาะในระยะเวลา 5 เดือน จนเข้าสู่ปีนี้ (2565) มีมากกว่า 17,000 คนแล้ว รวมทั้งเด็ก 650 คน โดยเฉพาะที่เท็กซัสที่เพิ่งเกิดเหตุสะเทือนขวัญการสังหารหมู่ในโรงเรียน Robb Elementary school ที่เมืองยูวัลดี คร่าชีวิตเด็กนักเรียน 19 คน และครู 2 คนนั้น ได้ชื่อว่ามีกฎระเบียบควบคุมการซื้อขายอาวุธปืนน้อยมาก ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากอาวุธปืนปีละมากกว่า 3,600 คน
Gun Violence Archive กลุ่มวิจัยที่ไม่แสวงหากำไรเกี่ยวกับความรุนแรงจากอาวุธปืนและเหตุอาชญากรรมต่าง ๆ ระบุว่า นับตั้งแต่เริ่มปีนี้มีคนที่ถูกสังหารด้วยอาวุธปืนแล้วอย่างน้อย 17,199 คน ในจำนวนนี้ราว 7,600 คน เป็นเหยื่อการฆาตกรรม ไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือเหตุบังเอิญ และอีกกว่า 9,500 คน เกิดจากการฆ่าตัวตาย
เมื่อปี 2564 ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากอาวุธพุ่งสูงทำสถิติมากกว่า 45,000 คน รวมทั้งจากการถูกฆาตกรรม 20,920 คน สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2560 ตอนนั้นมีเหยื่อกระสุนราว ๆ 58,000 คน ขณะที่ ปัญหาเรื้อรังที่ยังแก้ไม่ตกคือ ทุกครั้งที่มีเหตุรุนแรงจากอาวุธปืนมักจะมีเด็กตกเป็นเหยื่อด้วยเกือบทุกครั้ง โดยแม้พวกเขาจะไม่ใช่เป้าหมายโดยตรง เช่น ในการสังหารหมู่เมื่อวันอังคาร (24 พฤษภาคม) แต่ พวกเขาก็กลายเป็นเหยื่อจากความบิดเบี้ยวของพฤติกรรมของคนร้าย ที่ตกอยู่ในสภาพจนตรอกขณะหนีความผิดหลังยิงยายของตัวเอง
ในปีนี้มีเหยื่อกระสุนที่เป็นผู้เยาว์ราว 640 คน และบาดเจ็บอีก 1,594 คน แต่เมื่อปีที่แล้ว มีเด็กที่เสียชีวิตเพราะอาวุธปืน 1,560 คน บาดเจ็บมากกว่า 4,000 คน และที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ มีเหตุการสังหารเกิดขึ้นในสหรัฐฯ ในช่วง 145 วันแรกของปีนี้ สูงถึง 213 ครั้ง ขณะที่เมื่อปีที่แล้วเกิดขึ้น 692 ครั้ง มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2557