svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ดอน" แจง สว. ไทยฟื้นสัมพันธ์ซาอุฯ เผยมกุฎราชกุมารซาอุฯ เตรียมเยือนไทยปีนี้

07 กุมภาพันธ์ 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ดอน" แจง สว. ไทยฟื้นสัมพันธ์ซาอุฯ เป็นประโยชน์กับทุกภาคส่วน พร้อมเผยข่าวดี มกุฎราชกุมารซาอุฯ เตรียมเยือนไทยปีนี้

     วันนี้ (7 ก.พ.) ที่รัฐสภา ในที่ประชุมวุฒิสภา นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การต่างประเทศ ได้ตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจา กรณีการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศซาอุดีอาระเบีย หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เยือนประเทศซาอุฯ เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา ตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะ อูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ประเทศซาอุฯ ซึ่งตั้งถามโดยนายจเด็จ อินสว่าง สมาชิกวุฒิสภา ว่า การเข้าพบดังกล่าวไม่ใช่เรื่องกะทันหัน ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะปัจจัยที่ซาอุดีอาระเบียปรับท่าที และให้ความสำคัญกับประเทศไทย 

 

     โดยข้อเท็จจริงมีหลายองค์ประกอบ เริ่มต้นจาก พล.อ.ประยุทธ์ ได้จัดการประชุมภาคธุรกิจในกรอบความร่วมมือเอเชียครั้งแรก หรือ ACD Connect 2016 และใช้เวลาบริหารจัดการให้ทุกอย่างเกิดขึ้นจริงถึง 6 ปี จนนำไปสู่การเยือนอย่างเป็นทางการในปี 2565

 

     “เพราะเขามา ไม่ใช่ว่าวางแผนจะมา ปี 2559 ไม่มีท่าทีจะส่งใครมา แต่การประชุมใน ACD นั้น สมประโยชน์ระดับหนึ่งกับซาอุฯ และ รมว.การต่างประเทศซาอุฯ เดินทางมาเยือน และสร้างความสัมพันธ์ ทั้งนี้มิตรประเทศคือบาห์เรน ร่วมผลักดันในระดับสูง ต่อๆ ไปมีความหมาย การช่วยเพราะมิตรไมตรีที่ได้รับจากไทยในอดีตทำให้ทุกอย่างลงตัว คำเชิญให้นายกฯ ไปซาอุฯ ไม่ได้เกิดในปี 2565 แต่เริ่มปี 2560 โดยได้รับเชิญด้วยวาจา แต่มีปัญหาภายในประเทศการพบปะจึงถูกเลื่อน” นายดอน กล่าว

 

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การต่างประเทศ

     นายดอน กล่าวด้วยว่า ที่สำคัญคือปี 2562 ในการประชุมจี 20 ที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ผู้นำของ 2 ประเทศพบกัน ในการประชุมถือว่าได้ตัดสินใจทางการเมือง และได้ใช้เวลาในการฟื้นความสัมพันธ์ คำเชิญทางการเป็นหนังสือ มีมาในเดือน มี.ค.- เม.ย. 64 แต่มีปัญหา ทำให้การเจรจาปรับเวลาจึงลงตัวที่ปี 65 สำหรับการหารือที่ไป ไม่ได้ต้อนรับปกติ เพราะไทยไม่มีความสัมพันธ์เป็นปกติ แต่ประเทศซาอุฯ ทำให้เป็นปกติ มีความสมบูรณ์ และชื่นใจ

 

     โดยการพบปะพูดคุย ไม่ใช่แค่เรื่องฟื้นความสำคัญ แต่พูดเรื่อยๆ ที่ผู้นำทั้ง 2 คุยแบบเอ็นจอยทุกเรื่อง และลงรายละเอียด เมื่อหารือเสร็จมกุฎราชกุมาร แลกหมายเลขโทรศัพท์กับนายกฯ เพื่อคุยกันต่อหลังจากออกห้องประชุม นั่งรับประทานอาหารร่วมกัน มกุฎราชกุมารคุยสนุก นั่งหัวเราะ พูดคุยครอบคลุมถึงสุขอนามัย การดูแลสุขภาพให้แข็งแรง กีฬา แอนิเมชั่น อีสปอร์ต ฟอร์มูล่าวัน เรื่องที่มกุฎราชกุมารสนไปใจซื้อทีมกีฬานิวคาสเซิล เป็นต้น เสมือนคุยกันแบบคนในครอบครัว

 

     “บรรยากาศที่เห็นจริงจังนั้น เป็นเรื่องอธิบายความได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น 2 ประเทศ เป็นนิมิตรที่ดี แต่จำเป็นต้องช่วยกันประคองให้มั่นคงยั่งยืน โดยต้องเร่งรัดสิ่งที่พึงเกิดขึ้นให้เกิดขึ้นจริงและสมประโยชน์ ตามการปรับความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นและทุกส่วน รวมถึงประชาชนได้รับประโยชน์ จากการปรับความสัมพันธ์ โดยมกุฎราชกุมาร พูดในห้องหารือลำดับแรกว่าประชาชนสนใจไปมาหาสู่กัน ต้องหาทางทำให้เป็นจริง ซึ่งนายกฯ เตรียมดำเนินการ เช่น สายการบินจากซาอุฯ – ไทย เป็นต้น นอกจากนั้นนายกฯ กำชับว่า ขอให้ทำให้ทุกอย่างลุล่วง เพราะขณะนี้ได้เริ่มต้นแล้วในระดับผู้นำ” นายดอน กล่าว
 

 

การเยือนครั้งแรกของผู้นำประเทศหลังความสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯสั่นคลอน

     นายดอน กล่าวด้วยว่า ทั้ง 2 ผู้นำกำชับเป็นการเฉพาะ คือให้ผู้ร่วมประชุม เรื่องต่างๆ ต้องเดินอย่างรวดเร็วไม่ช้า ให้ระยะเวลาไว้ด้วย บางเรื่องตั้งแต่ 2 เดือน บางเรื่อง 2 ไตรมาส โดยให้ทำโรดแม็พ ซึ่งได้ชี้ให้กระทรวงการต่างประเทศของทั้ง 2 ประเทศดำเนินการ รวมถึง เรื่องพลังงาน และแรงงานด้วย เราถือว่าก้าวย่างถูกทาง ถูกจุด เหมาะสม

 

     สิ่งที่ทำต่อไปคือ วันนี้ ( 7 ก.พ.) จะมีประชุมตัวแทนจากสภาหอการค้าฯ เพื่อเยือนซาอุดีอาระเบีย และเริ่มไปเยือนตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ. โดยวันที่ 11 ก.พ. เจ้าหน้าที่จะคุยเรื่องแผนงานที่เดินหน้าร่วมกันเป็นโรดแม็พความสัมพันธ์ให้มั่นคงและประโยชน์กับประชาชนสองประเทศ และสิ่งสำคัญที่กระทรวงการต่างประเทศต้องทำให้แล้วเสร็จโดยเร็ว คือ การหาทูตประจำประเทศซาอุดีอาระเบียคนแรกในรอบ 30 ปี

 

     ทั้งนี้ในตอนท้ายนายจเด็จ เสนอความเห็นให้ดึงความร่วมมือจากองค์กรความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) เข้ามาช่วยประเทศไทย เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนายดอน กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมาไทยกับโอไอซี มีปฏิสัมพันธ์ระดับหนึ่ง คือเชิญสมาชิกโอไอซี รับรู้เรื่องราวในประเทศไทยและได้รับการตอบรับอย่างดี ต่อการหาทางปฏิบัติเพื่อเกื้อกูลประเทศไทย โดยปีนี้เลขาธิการโอไอซี ตอบรับเยือนไทย รวมถึงมกุฎราชกุมาร จะมาเยือนประเทศไทยในปี 65 เมื่อโรดแม็พเรียบร้อย 

 

การเยือนครั้งแรกของผู้นำประเทศหลังความสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯสั่นคลอน

logoline