svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

พิษโควิดเอารถเก๋งลูกสาวไปจำนำ พอจ่ายครบแต่รถไม่ได้คืน

22 สิงหาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สองผัวเมียร้านขายของชำที่บุรีรัมย์ สุดช้ำใจออกมาร้องขอความช่วยเหลือ หลังเจอพิษโควิดต้องเอารถเก๋งลูกสาวไปจำนำ หวังนำเงินมาหมุนเวียนค้าขาย แต่พอครบกำหนดโอนเงินจ่ายทั้งต้นดอกเบี้ยและค่าเกือบ 5 หมื่น แต่กลับเชิดรถหาย เตรียมแจ้งความเอาผิด เชื่อทำเป็นขบวนการ

22 สิงหาคม 2564 นายกำธร  เขียวรัมย์  อายุ 52 ปี  และนางจินตนา  เขียวรัมย์ อายุ 53 ปี  สองสามีภรรยา  ชาว  ต.อิสาณ  อ.เมือง  จ.บุรีรัมย์ อาชีพเปิดร้านขายของชำในหมู่บ้าน  ได้นำเอกสารหลักฐานแชทการสนทนาผ่านไลน์  และสลิปการโอนเงิน  ออกมาร้องขอความช่วยเหลือหลังนำรถเก๋งไปจำนำกับสาวสวยคนหนึ่ง ซึ่งคนรู้จักแนะนำให้ติดต่อผ่านไลน์  เพื่อนำเงินไปหมุนเวียนค้าขายช่วงที่ประสบปัญหาโควิดระบาด  แต่พอโอนเงินทั้งต้นและดอกเบี้ยเป็นเงินเกือบ 5 หมื่นบาท ตามที่ตกลงกันไว้ครบแล้ว   กลับเชิดรถเก๋งหายไปไม่ยอมคืนตามที่ตกลง สุดท้ายปิดมือถือ บล็อกไลน์หนีติดต่อไม่ได้   เชื่อเจตนาโกงและทำเป็นขบวนการ    

พิษโควิดเอารถเก๋งลูกสาวไปจำนำ พอจ่ายครบแต่รถไม่ได้คืน
 
โดยนายศรชัย  เล่าว่า  ตนกับภรรยาเปิดร้านขายของชำและกับข้าวในหมู่บ้าน  แต่ช่วงสถานการณ์โควิดระบาด  ก็ขายของไม่ค่อยได้เหมือนเมื่อก่อนทำให้ขาดเงิน  ช่วงเดือนเม.ย. 64  จึงได้ไปปรึกษาคนรู้จักและไว้เนื้อเชื่อใจคนหนึ่ง  เขาก็แนะนำให้ลองติดต่อคุยไลน์กับ “น้ำตาล รถซิ่ง”  เกี่ยวกับการรับจำนำรถ จากนั้นคนที่รู้จักก็ให้ ไอดีไลน์มา  พอติดต่อสื่อสารกันทางไลน์ “น้ำตาล รถซิ่ง”  ตามคำแนะนำของคนที่รู้จัก  ก็ตัดสินใจนำรถเก๋ง  ยี่ห้อ MG สีฟ้า-ขาว  ทะเบียน กต-9106 บุรีรัมย์  ซึ่งเป็นรถของลูกสาว  ที่ไว้ใช้ในการขับซื้อของที่ตลาด  โดยตกลงจำนำกันในราคา 40,000 บาท   โดยนัดส่งมอบรถกันที่บริเวณข้างโรงรับจำนำเก่าในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์   ซึ่งก็มีผู้หญิงสาวสวยหน้าตาดีคนหนึ่งที่ติดต่อกันทางไลน์ “น้ำตาล รถซิ่ง”  เป็นคนมารับรถและนำเงินมาให้ตนเอง  โดยหญิงคนดังกล่าวได้จ่ายเงินค่าจำนำรถให้กับตนเองจำนวน  34,000 บาท เพราะได้หักดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้า 4,000 บาท  แต่ด้วยความไว้ใจเพราะคนรู้จักแนะนำ จึงไม่ได้มีการทำสัญญาหรือเอกสารใดๆ เพียงมีข้อตกลงว่าจะจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยให้ภายใน 4 เดือน 
พิษโควิดเอารถเก๋งลูกสาวไปจำนำ พอจ่ายครบแต่รถไม่ได้คืน

กระทั่งเดือนกรกฎาคม 2564  นายศรชัย  ก็ติดต่อไปบอกว่าจะขอไถ่รถคืนแต่เงินก้อนยังไม่พอ  จึงขอจ่ายเป็นงวด  ซึ่งวันที่  29 ก.ค. ได้โอนจ่ายดอกเบี้ยและเงินค่าจอดไปให้ก่อนจำนวน 6,000 บาท   จากนั้นวันที่ 2 ส.ค. ได้โอนเงินต้นไปเพิ่มอีก  20,000 บาท  และวันที่ 9 ส.ค.  ได้โอนไปอีก 20,000 บาท   ซึ่งก็ครบทั้งต้นและดอกเบี้ยตามที่ตกลงกันไว้  ซึ่งบัญชีปลายทางที่ให้โอนไปแต่ละครั้งชื่อผู้รับไม่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้เอะใจเพราะไม่ได้คิดว่าจะถูกหลอก   แต่พอโอนเงินไปครบแล้วทาง “น้ำตาล รถซิ่ง”  สาวสวยคนที่รับจำนำ  ก็รับปากจะนำรถเก๋งมาคืนให้ในวันที่ 9 ส.ค. แต่รอทั้งวันก็ไม่เห็นเอารถมาคืนตามที่รับปาก ติดต่อไปก็อ้างว่ารถไปจอดอยู่ อ.ลำปลายมาศบ้าง   จ.นครราชสีมาบ้าง  และจ.ชัยภูมิบ้าง  

พิษโควิดเอารถเก๋งลูกสาวไปจำนำ พอจ่ายครบแต่รถไม่ได้คืน

จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รถคืน  จึงเชื่อว่าน่าจะมีเจตนาโกงเอาเงินและเชิดรถไปด้วย วันที่ 11 ส.ค.64  จึงได้เข้าแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน  เพราะเกรงว่าจะเอารถไปทำในสิ่งผิดกฎหมาย  และจากพฤติกรรมดังกล่าวก็เชื่อว่าน่าจะทำกันเป็นขบวนการ ขณะนี้ก็รอหนังสือมอบอำนาจจากบริษัท  เพื่อทำการแจ้งความดำเนินคดีกับหญิงคนดังกล่าว  และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง  เชื่อว่าทำเป็นขบวนการแน่นอน  จึงอยากฝากถึงแก๊งดังกล่าวหากยังมีสำนึกก็ให้นำรถมาคืนเพราะต้องใช้ทำมาหากิน  และยังต้องส่งงวดอีกหลายสิบงวด  ก็อยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามให้ด้วยหากได้รถคืนก็จะไม่คิดใจเอาความ

 

ด้านนางจินตนา  ภรรยา   บอกว่า  หากช่วงนี้มีทางเลือกก็คงไม่นำรถลูกสาวไปจำนำ เพราะก็รู้ว่ามันเสี่ยง  แต่สุดท้ายก็ถูกหลอก   ก็อยากให้ถึงกลุ่มแก๊งดังกล่าวด้วยว่าอย่าซ้ำเติมกันเลยแค่นี้ก็เดือดร้อนมากแล้ว  ก็อยากให้นึกถึงเวรกรรมบ้าง หากเห็นใจและมีสำนึกก็ให้รถกลับมาส่งคืนเพราะเงินก็ได้ไปครบแล้ว  อย่าซ้ำเติมกันเลย  และอยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือด้วย  เพราะกลัวแก๊งดังกล่าวจะนำรถไปขายต่อ หรือทำสิ่งผิดกฎหมาย 
                                                                                          
โดย - สุรชัย     พิรักษา 

logoline