นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงกรณีที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชา แถลงจุดยืน แม้ไทยจะมีแผนตัดไฟฟ้า และสัญญาณอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ก็ไม่ทำให้กัมพูชาเปลี่ยนท่าทีในการนำประเด็นพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และสามเหลี่ยมมรกต เข้าสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice: ICJ) และการคงร่างระเบียบวาระการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Commission: JBC) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน 2568 นี้ โดยยืนยันว่า แผนการตัดไฟฟ้า และระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ตตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชานั้น มีวัตถุประสงค์เดียว เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ของทั้ง 2 ประเทศ และป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติต่าง ๆ การค้ามนุษย์ และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เช่น สแกมเมอร์ ซึ่งที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.จะได้พิจารณามาตรการดังกล่าวต่อไปบนพื้นฐานดังกล่าว มิได้เป็นเครื่องมือที่ฝ่ายไทย จะใช้ หรือหวังผลทางการเมืองในการเจรจาทวิภาคีแต่อย่างใด ซึ่งเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ตามที่ปรากฎในสื่อทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายไทยขอเรียกร้องให้ทางการกัมพูชาร่วมมือกันในการต่อต้านการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนดังกล่าว
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังยืนยันในความมุ่งมั่น ที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการเจรจาแก้ไขปัญหาเขตแดนกับกัมพูชา โดยเฉพาะผ่านเวทีการประชุม JBC ที่จะถึงนี้ ขณะที่ การเจรจาระหว่างหน่วยงานทางทหารในพื้นที่ ยังคงมีอยู่อย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ ตามที่ได้ย้ำในหลายโอกาสก่อนหน้านี้ ประเทศไทยประกาศไม่ยอมรับในเขตอำนาจของ ICJ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน