svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เจาะคำสั่ง ทบ. ระหว่างบรรทัด “เข้ม - ชัด” กินขาดแถลงการณ์รัฐบาล

เจาะคำสั่ง ทบ. ระหว่างบรรทัด “เข้ม - ชัด” กินขาดแถลงการณ์รัฐบาล จับตาปิดด่าน ยกระดับกดดัน ประเดิมด่านไหนด่านแรก? พร้อมถอดรหัส ทบ.ชำแหละ “กัมพูชา” ละเมิดสนธิสัญญาอาเซียน

7 มิถุนายน 2568 คำสั่งกองทัพบก ฉบับล่าสุดที่ออกมาในวันนี้ แม้เนื้อหาในเชิงรุกเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้กัมพูชา ในเรื่องการ “ปิดด่าน” หรือ “ปิดจุดผ่านแดน” ยังไม่ชัดเจน เพราะอยู่ในระดับ “สั่งการและมอบอำนาจให้กองกำลังระดับพื้นที่ตัดสินใจ”

แต่เนื้อหาส่วนใหญ่ นอกจาก 2 ย่อหน้าสุดท้าย ต้องถือว่าเป็นการประณามพฤติกรรมของฝ่ายกัมพูชาอย่างชัดแจ้ง และตรงไปตรงมาที่สุด

อาจารย์ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย บอกว่า หากนำคำสั่งของกองทัพบก ที่ลงนามโดย ผบ.ทบ. ไปเปรียบเทียบกับแถลงการณ์ 2 ฉบับของรัฐบาลที่ออกมาก่อนหน้านี้ จะพบว่า เนื้อหาของคำสั่งกองทัพบก “เข้ม - ชัด” และ “ยืนหยัดในหลักการ” กว่าแถลงการณ์ของรัฐบาลอย่างมาก โดยเฉพาะการยืนยันว่า กัมพูชาได้ล่วงละเมิดเข้ามาในดินแดนที่เป็นอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย

เจาะคำสั่ง ทบ. ระหว่างบรรทัด “เข้ม - ชัด” กินขาดแถลงการณ์รัฐบาล

เจาะคำสั่ง ทบ. ระหว่างบรรทัด “เข้ม - ชัด” กินขาดแถลงการณ์รัฐบาล

ถอดรหัส ทบ.ชำแหละ “กัมพูชา” ละเมิดสนธิสัญญาอาเซียน

“ข่าวข้นคนข่าว” ถอดรหัสเพิ่มเติมจากคำสั่งกองทัพบก พบข้อสังเกตดังนี้

  1. มีเนื้อหาเปิดโปงพฤติกรรมของกัมพูชาที่กระทำอย่างเป็นขั้นเป็นตอนในการ “ละเมิดอธิปไตยไทย” ทั้งจัดคนมาร้องเพลงชาติ การติดอาวุธเข้ามาในพื้นที่
  2. ตอกย้ำพฤติกรรมของกัมพูชาว่ามีความพยายามยั่วยุอย่างเปิดเผย
  3. เรียกฝ่ายกัมพูชาทั้งพลเรือน และกำลังติดอาวุธ ที่รุกล้ำเข้ามาว่า “ผู้รุกราน”
  4. ประกาศจุดยืนว่า ไทยยอมรับไม่ได้กับการกระทำที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ผลประโยชน์ชาติ และบูรณภาพแห่งดินแดน
  5. ย้ำจุดยืนว่าไทยพยายามแก้ปัญหาโดยสันติวิธี แต่กัมพูชาไม่ตอบสนองในเชิงบวก
  6. แฉอย่างเป็นทางการว่ามีการเสริมกำลังพล และอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าประชิดแนวชายแดน
  7. ชี้ชัดว่ากัมพูชาละเมิดสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นสนธิสัญญาระดับอาเซียน ไม่ใช่ทวิภาคี

จับตาประเดิมปิดด่าน ยกระดับกดดัน

มีรายงานว่า ในวันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายนนี้ กองทัพบก โดยกองกำลังระดับพื้นที่ จะสั่งปิดด่าน หรือ จุดผ่านแดนสำคัญบางจุด เพื่อเพิ่มมาตรการกดดันต่อกัมพูชา ท่ามกลางกระแสข่าวว่า ฝ่ายกัมพูชามีความพยายามสั่งปิดด่าน หรือจุดผ่านแดนทุกด่านในฝั่งกัมพูชาก่อนไทย เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบ และไม่ต้องการให้ตัวเองเป็นฝ่ายตั้งรับ

 

เปิดมูลค่าการค้าไทย-กัมพูชา ด่านอรัญฯ แชมป์

ปัจจุบัน ไทย-กัมพูชา มีจุดผ่านแดนทางบก 16 จุด ในจำนวนนี้มี 7 จุด ที่เป็น “จุดผ่านแดนถาวร” ซึ่งเป็นช่องทางเข้า-ออกที่เปิดอย่างเป็นทางการสำหรับประชาชนและสินค้า มีวัตถุประสงค์เพื่อการค้าขาย การท่องเที่ยว และการเดินทาง มีระบบตรวจคนเข้าเมืองของทั้งสองประเทศบริเวณจุดผ่านแดน

จุดผ่านแดนถาวร 7 จุด ประกอบด้วย

  • จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก - ปอยเปต หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “ด่านอรัญประเทศ”
  • จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด-ช่องพรม หรือ “ด่านจันทบุรี - ไพลิน”
  • จุดผ่านแถนถาวรบ้านแหลม - กร็อมเรียง หรือ “ด่านจันทบุรี - พระตะบอง”
  • จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก- จามเยียม หรือ “ด่านตราด - เกาะกง”
  • จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน  บ้านพนมได หรือ ด่านสระแก้ว - พระตะบอง”
  • จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ - ช่องจวบ พื้นที่ จ.ศรีสะเกษ กับ จังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา
  • จุดผ่านแถนถาวรช่องจอม - โอร์เสม็ด พื้นที่ จ.สุรินทร์ กับ จังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา

ข้อมูลจากกรมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า การค้าชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อสิ้นปี 2564 มีมูลค่าการค้ารวม 169,104 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออก 143,115 ล้านบาท นำเข้า 25,989 ล้านบาท  ไทยได้ดุลการค้า 117,126 ล้านบาท

ด่านการค้าที่มีมูลค่าการค้ารวมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

  • ด่านศุลกากรอรัญประเทศ จ.สระแก้ว คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 61.05 ของการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา
  • ด่านศุลกากรคลองใหญ่ จ.ตราด คิดเป็นสัดส่วน 18.46 %
  • ด่านศุลกากรจันทบุรี คิดเป็นสัดส่วน 12.74 %
  • ด่านศุลกากรช่องจอม คิดเป็นสัดส่วน 6.45 %
  • ด่านศุลกากรช่องสะงำ คิดเป็นสัดส่วน 1.30 %

"ผู้อ่านลองคิดแทนกองทัพบก กองกำลังบูรพา หรือกองกำลังสุรนารีว่า ถ้าจะปิดด่านให้ได้ผลชะงัด คิดว่าควรจะปิดด่านไหน?"