
7 มิถุนายน 2568 คำสั่งกองทัพบก ฉบับล่าสุดที่ออกมาในวันนี้ แม้เนื้อหาในเชิงรุกเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้กัมพูชา ในเรื่องการ “ปิดด่าน” หรือ “ปิดจุดผ่านแดน” ยังไม่ชัดเจน เพราะอยู่ในระดับ “สั่งการและมอบอำนาจให้กองกำลังระดับพื้นที่ตัดสินใจ”
แต่เนื้อหาส่วนใหญ่ นอกจาก 2 ย่อหน้าสุดท้าย ต้องถือว่าเป็นการประณามพฤติกรรมของฝ่ายกัมพูชาอย่างชัดแจ้ง และตรงไปตรงมาที่สุด
อาจารย์ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย บอกว่า หากนำคำสั่งของกองทัพบก ที่ลงนามโดย ผบ.ทบ. ไปเปรียบเทียบกับแถลงการณ์ 2 ฉบับของรัฐบาลที่ออกมาก่อนหน้านี้ จะพบว่า เนื้อหาของคำสั่งกองทัพบก “เข้ม - ชัด” และ “ยืนหยัดในหลักการ” กว่าแถลงการณ์ของรัฐบาลอย่างมาก โดยเฉพาะการยืนยันว่า กัมพูชาได้ล่วงละเมิดเข้ามาในดินแดนที่เป็นอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย
“ข่าวข้นคนข่าว” ถอดรหัสเพิ่มเติมจากคำสั่งกองทัพบก พบข้อสังเกตดังนี้
มีรายงานว่า ในวันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายนนี้ กองทัพบก โดยกองกำลังระดับพื้นที่ จะสั่งปิดด่าน หรือ จุดผ่านแดนสำคัญบางจุด เพื่อเพิ่มมาตรการกดดันต่อกัมพูชา ท่ามกลางกระแสข่าวว่า ฝ่ายกัมพูชามีความพยายามสั่งปิดด่าน หรือจุดผ่านแดนทุกด่านในฝั่งกัมพูชาก่อนไทย เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบ และไม่ต้องการให้ตัวเองเป็นฝ่ายตั้งรับ
ปัจจุบัน ไทย-กัมพูชา มีจุดผ่านแดนทางบก 16 จุด ในจำนวนนี้มี 7 จุด ที่เป็น “จุดผ่านแดนถาวร” ซึ่งเป็นช่องทางเข้า-ออกที่เปิดอย่างเป็นทางการสำหรับประชาชนและสินค้า มีวัตถุประสงค์เพื่อการค้าขาย การท่องเที่ยว และการเดินทาง มีระบบตรวจคนเข้าเมืองของทั้งสองประเทศบริเวณจุดผ่านแดน
จุดผ่านแดนถาวร 7 จุด ประกอบด้วย
ข้อมูลจากกรมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า การค้าชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อสิ้นปี 2564 มีมูลค่าการค้ารวม 169,104 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออก 143,115 ล้านบาท นำเข้า 25,989 ล้านบาท ไทยได้ดุลการค้า 117,126 ล้านบาท
ด่านการค้าที่มีมูลค่าการค้ารวมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
"ผู้อ่านลองคิดแทนกองทัพบก กองกำลังบูรพา หรือกองกำลังสุรนารีว่า ถ้าจะปิดด่านให้ได้ผลชะงัด คิดว่าควรจะปิดด่านไหน?"