2 มีนาคม 2566 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่สภาผู้แทนราษฎร ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความพ.ร.ก.แก้ไขพ.ร.บ.อุ้มหาย หากยึดให้มีผลบังคับใช้ตามเดิมสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีความพร้อมหรือไม่ ว่า ตอนนี้จะพยายามแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุดซึ่งต้องยอมรับว่า อุปกรณ์ในการบันทึกภาพและเสียงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังมีไม่เพียงพอ
โดยหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ใช่เหตุเร่งด่วนจนต้องออกพ.ร.ก. โดยให้มีผลบังคับใช้ในทันที อาจจะต้องมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนอุปกรณ์ ให้กับผู้ที่มีตำแหน่งหน้าที่ที่ต้องใช้ในการจับกุมดำเนินคดีก่อน เช่น อาจมีการโยกย้ายอุปกรณ์มาจากงานจราจรให้ยังงานสืบสวนสอบสวน หรือสายตรวจ เป็นหลัก
พร้อมยอมรับว่า การดำเนินการดังกล่าวค่อนข้างยุ่งยากพอสมควร และการจัดเก็บข้อมูลก็ยังคงมีปัญหา จึงจำเป็นต้องมีการจัดสรรงบประมาณลงไปเพื่อจัดหาอุปกรณ์
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ระบุอีกว่า ไม่ทราบในรายละเอียดของแต่ละมาตราที่มีการกำหนดการใช้อุปกรณ์ ตั้งแต่ต้น จึงยังไม่ได้มีการเตรียมความพร้อม เนื่องจากการจับกุมแต่ละวันของเจ้าหน้าที่มีจำนวนมากหลายแสนคดีต่อปี และตำรวจที่เกี่ยวข้องอีกแสนกว่าคน
จึงไม่ใช่เรื่องที่ง่าย เพราะหากเกิดข้อผิดพลาดอาจทำให้เสียรูปคดีได้ แต่จะทำให้ดีที่สุด พร้อมยอมรับว่าตนรูเป็นห่วงลูกน้องแต่ก็จะพยายาม ให้มีการประชุมเกี่ยวกับเรื่อง ระเบียบ ก็บังคับ ในทุกสัปดาห์ เพราะไม่รู้ว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาในรูปแบบใด แต่จะต้องมีการเตรียมการให้ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าการดำเนินการทั้งหมด ไม่ใช่การเตะถ่วงแต่อย่างใด