svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ทักษิณ" อัดยับ ขายบ้านแถมสัญชาติ คนพูดน่าจะไม่ใช่คน

22 กุมภาพันธ์ 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ทักษิณ" อัดยับ ขายบ้านแถมสัญชาติ คนพูดน่าจะไม่ใช่คน ระบุ ส.ว. คือ อุปสรรคของประเทศ แต่จะทำให้ฝ่ายปชต.ชนะท่วมท้น แซะ "ป้อม-ตู่" อดีตน้องรักที่ไม่รักกันแล้วมั้ง

22 ก.พ.2566 นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม กล่าวในรายการ Care ClubHouse CareTalk 7 Episodes “เลือก • เคลื่อน • ไทย 2566” หัวข้อ พี่โทนี่ตัวตึง ตอบทุกปัญหา "แลนด์สไลด์แน่ๆ" จะแคร์เพื่อ? วานนี้(21 ก.พ.) โดยเพจ CARE คิด เคลื่อน ไทย ได้เผยแพร่บทสนทนา ระบุว่า

“ขายบ้านแถมสัญชาติ คนพูดน่าจะไม่ใช่คน น่าจะเป็นควาย”

เรื่องขายบ้านแถมสัญชาตินี่ คนพูดน่าจะไม่ใช่คน น่าจะเป็นคว..ย บ้านหลังหนึ่งมันกี่ตังค์กันเชียว กำไรได้กี่ตังค์เอง ใครเขาจะไปแถมสัญชาติ ขายบ้านแค่แถมมอเตอร์ไซค์คันเดียวยังไม่กล้าแถมเลย เพราะไม่คุ้มหรอก นับประสาอะไรกับแถมสัญชาติ ผมถามหน่อยว่า บริษัทไหนจะมีอำนาจแจกสัญชาติ อำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบสัญชาติเป็นเรื่องของธนาคาร เรื่องของรัฐนู้น ใครมันจะแจกกันได้

มันต้องมีสัญชาติก่อน มันถึงจะซื้อบ้านได้ คนพูดว่า ขายบ้านแถมสัญชาตินี่ เป็นอะไรที่ไม่มีเหตุผลเลย อยากพูดอะไรก็พูด ผมฟังแล้วสังเวชจริงๆ ไม่มีอะไรหรอก เลยบอกไงว่าคนที่พูด ไม่ใช่คนแล้วนะ แต่เป็นควาย

"ทักษิณ" อัดยับ ขายบ้านแถมสัญชาติ คนพูดน่าจะไม่ใช่คน

“กฎหมายไทยตอนนี้ โปร่งใสแต่ทึบแสง”

วันนี้ชายชาติทหารไม่ค่อยกล้าหาญ ผมจะเล่าให้ฟังนะ ผมเข้าการเมืองในวัย 45 เป็นรมต.ต่างประเทศ วันนั้นไม่มีกฎหมายแสดงบัญชีทรัพย์สิน แต่พรรคพลังธรรมบอกว่าจะต้องเปิดเผย ผมก็ต้องเปิดเผย แล้ววันนั้นจำได้ไหม ไทยรัฐพาดหัวว่า “มีทรัพย์สิน 5.8 หมื่นล้าน” ในอายุ 45 ปี ถ้าวันนี้ถามอีกทีก็คงเหลือนิดเดียว

ปัญหาคือ สปิริตสำคัญที่สุด กฎหมายยังสู้สปิริตไม่ได้ ในต่างประเทศนะ กฎหมายระบุยังไงก็ต้องทำตาม แต่ของไทยนี่ กฎหมายระบุยังไงค่อยมาดูว่าจะเลี่ยงยังไง แต่ก็ไม่รู้จะพูดยังไงนะ เพราะ กฎหมายไทยตอนนี้ โปร่งใสแต่ทึบแสง

“ข่าวลือ คือ ข่าวที่คนปล่อยอยากให้เป็นจริง”

ในการเมืองไทย มีข่าวลือเกิดขึ้นเยอะมาก ลือดีล ลือว่าจะจับมือกับคนนั้นคนนี้ ไหนจะมีข่าวลือว่า จะยุบพรรคก่อนเลือกตั้ง ทั้งเพื่อไทย ทั้งก้าวไกลอีก

มีคนเคยบอกกับผมว่า “ข่าวลือ คือ ข่าวที่คนปล่อยอยากให้เป็นจริง” ฉะนั้นคนที่อยากให้เป็นจริง คือ แช่งไปก่อนแล้วจะชนะง่ายหน่อย อีกอย่างมันคือ เทคนิคตกเบ็ดพวก ส.ส. ขวัญอ่อน พอได้ยินว่าจะยุบก็รีบขอย้ายพรรคดีกว่า มันเป็นวิธีดูดคนแบบหนึ่ง

“ป้อมออกเพลง ป้อม700 คงพร้อมแข่งกับอดีตน้องรักที่ไม่ค่อยรักกันแล้วมั้ง”

วันนี้ผมว่า คุณประวิตรก็คงรู้สึกว่า ตั้งใจอยากเป็นนายกฯมาก เพราะอุตส่าห์เปลี่ยนลุค แถมออกเพลงป้อม700 ผมว่าเขามีความพยายามสูงนะ คงพร้อมแข่งกับอดีตน้องรักที่ไม่ค่อยรักกันแล้วมั้ง เพราะต้องแข่งกัน และก็หวังว่าจะเอา ส.ว. มาช่วย ตอนนี้ต่างคนต่างหวังเอา ส.ว. คนละครึ่ง เพื่อพยายามตั้งรัฐบาล

“ยิ่งมี ส.ว. แบบนี้ ฝ่ายประชาธิปไตยจะยิ่งชนะอย่างท่วมท้น”

ถ้าคิดว่า ส.ว. คือ อุปสรรคของประเทศ ประชาชนต้องช่วยกันในวันเลือกตั้ง ต้องขอบคุณ ส.ว. มากที่ออกมาพูดแบบนี้ ยิ่งมี ส.ว. แบบนี้ ฝ่ายประชาธิปไตยจะยิ่งชนะอย่างท่วมท้นแน่นอน ยังไงแล้วพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยก็รวมกันได้

สมมติมีพรรคหลักพรรคหนึ่งได้ 300 ก็จะขาดแค่ 75 เสียงเท่านั้น จะจัดลำดับยังไงก็ว่ากันไป ก้าวไกลก็คงได้ขนาดพอเหมาะ ไม่เล็กไม่ใหญ่ พรรคประชาชาติคงได้ชายแดนใต้ ไหนจะพรรคเสรีรวมไทยอีก ดังนั้น ฝั่งฝ่ายค้านตอนนี้ยังไงก็รวมกันได้เกิน 375 แน่นอน ตอนแรกผมยังไม่มั่นใจ แต่วันนี้มั่นใจแล้วว่าถึงแน่นอน ถ้ามี ส.ว. ที่พอเป็นกลางประมาณ 20 กว่าคน ก็คงยกมือเอาตามที่ประชาชนเลือก

“วันนี้อุ๊งอิ๊งอุ้มท้องลุยเอง นึกไม่ถึงว่าจะสู้ขนาดนี้”

เรื่องการจะรวมกับพรรคไหนตั้งรัฐบาล ผมยังไม่ทราบเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคเขาตัดสินใจ สมมติพรรคฝ่ายประชาธิปไตยรวมกันเกิน 320 แบบนี้มันก็ง่ายแล้วครับ การจะเลือกใครมาร่วม ต้องดูว่าทำงานด้วยกันได้ไหม รับนโยบายเราได้ไหม ส่วนใหญ่พรรคหลักต้องเป็นพรรคผลักดันนโยบาย แล้วพรรคร่วมค่อยเสนอว่านโยบายพรรคเขาจะทำอะไรได้บ้างไหม นอกจากนั้นก็ดูความประพฤติส่วนตัว

ขนาดไทยรักไทยพรรคเดียวยังได้ 377 ที่นั่งเลย ผมคิดว่า เวลานี้ ตอนนี้คือน้องๆไทยรักไทยเลยนะ เพราะเป็นช่วงเวลาที่คนเจ็บปวด เบื่อหน่าย ดังนั้น อารมณ์คนตอนนี้มันพร้อมแล้ว ผมคิดว่าอย่าดูถูกนะ เกิน 320 ยังไงก็เป็นไปได้

ทั้งหมดอยู่ที่ประชาชน แต่ละพรรคตั้งความหวังไว้เท่าไหร่ ก็สู้ไป แต่บังเอิญพรรคเพื่อไทยเขาต้องสู้หนักหน่อย วันนี้อุ๊งอิ๊งอุ้มท้องลุยเองเลย ผมยังนึกไม่ถึงเลยว่าจะใจสู้ขนาดนี้

“วันเลือกตั้ง คือ วันที่ประชาชนใช้ปากกาพิฆาตการเมืองระบอบเผด็จการ”

วันนี้ผมดูคร่าวๆ ฝั่งประชาธิปไตยน่าจะรวมได้เกิน 375 เสียงแน่นอน ไม่ต้องพึ่งเสียง ส.ว. เลย เพราะวันนี้ประชาชนเรียนรู้แล้ว เข็ดแล้วครับ ทั้งบริหารผิดพลาด บริหารที่ไม่บริหาร แล้วมี ส.ว. เป็นที่ระคายอารมณ์ชาวบ้าน ดังนั้น วันเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ตามกรอบวันที่ 7 พฤษภาคม จะเป็นวันที่ประชาชนใช้ปากกาพิฆาตการเมืองระบอบเผด็จการ ให้เป็นประชาธิปไตย แม้ว่ารัฐธรรมนูญจะไม่เป็นประชาธิปไตยก็ตาม

“ถ้าประชาชนคิดจะสู้กับ ส.ว. ต้องเลือกแบบมียุทธศาสตร์”

เรื่องที่ ส.ว. ออกมาขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญ มันก็เป็นเรื่องปกติ เพราะทำตามคำสั่ง ถ้าผมอยู่ผมคงแก้กฎหมายให้ใช้หุ่นยนต์แทนได้ เพราะสุดท้ายก็ทำตามสั่งอยู่ดี จะงดออกเสียง จะไว้วางใจไม่ไว้วางใจ หรือเลือกใครเป็นนายกฯ ก็แล้วแต่จะสั่ง เที่ยวนี้ผมว่าประชาชนเขาเข็ดกับ ส.ว.แล้ว

ดังนั้น ฝ่ายประชาธิปไตยคงต้องช่วยตัวเอง ถ้าประชาชนคิดจะสู้กับ ส.ว. แต่งตั้ง ก็อยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน ประชาชนต้องเลือกอย่างมียุทธศาสตร์ คือ เลือกพรรคใดพรรคหนึ่งที่มีโอกาสชนะมากที่สุด มีคะแนนสูงให้เป็นพรรคหลักของฝ่ายประชาธิปไตย

ข้อมูลจาก เพจ CARE คิด เคลื่อน ไทย

logoline