svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ทักษิณ" ลั่น กลับแน่! เมื่อไร "อุ๊งอิ๊งค์" จะเป็นคนประกาศ (มีคลิป)

25 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ทักษิณ" ลั่นกลับแน่! เมื่อไร "อุ๊งอิ๊งค์" จะเป็นคนประกาศ ยันไม่เกี้ยเซี้ยกับพปชร. เมิน "จตุพร" ด่า ก็แค่ต้องการเอาตัวรอด

25 มกราคม 2566  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ช่วงค่ำวานนี้( 24 ม.ค.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ โทนี่ วู้ดซัม ร่วมสนทนา ในรายการ CARETalk x CareClubHouse หัวข้อ "มีเรื่องคาใจก็ถามมาเลอ" บางช่วงบางตอนมีผู้เข้ามาตั้งคำถามว่า


พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล จะจับมือตั้งรัฐบาลได้หรือไม่?

นายโทนี่ กล่าวว่า "วันนี้ฝั่งประชาธิปไตย คือ คำตอบ และสิ่งที่น่าสนใจคือ กทม. แทบจะแบ่งคนละครึ่ง ระหว่าง เพื่อไทย กับ ก้าวไกล ดังนั้นถ้ารวมกันก็เกิน 350 เสียง ขณะนี้ประชาชน เริ่มเบื่อ และต้องการคนที่จะเข้ามาแก้ปัญหาให้ประเทศ"

"16 ปี ที่โดนคดี เป็นเรื่องธรรมดา และคิดว่า สิ่งที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวอ้าง ก็ไม่เป็นไร และเป็นเรื่องธรรมชาติ และอยากบอกคนเสื้อแดงว่า ความเป็นมนุษย์ เป็นเรื่องที่สำคัญและทุกคนรู้จักกันหมด รวมทั้งความรักประชาธิปไตย ดันนั้นวิธีการที่จะเอาตัวรอดมีเยอะ พร้อมยืนยันว่าปลงแล้วหากใครจะด่า"

ความเป็นคนเสื้อแดง คือ หัวใจที่รักความเป็นธรรมและประชาธิปไตย อยากบอกกับพี่น้องเสื้อแดงว่า ความเป็นมนุษย์สำคัญที่สุด ความรู้จักรู้คุณรู้โทษ รู้เจ็บรู้ปวด รู้จักความเกลียดชังและรู้จักอภัย ทุกคนมีความเป็นมนุษย์ ความเป็นคนไทยยังไงก็ต้องมองคนไทยด้วยกัน คนเสื้อแดงก็เป็นมนุษย์ แต่ความเป็นคนเสื้อแดง คือ หัวใจที่รักความเป็นธรรมและประชาธิปไตย เป็นนักสู้เพื่อประชาธิปไตย


โวฝั่งประชาธิปไตย เพื่อไทย-ก้าวไกล เกิน 300 เสียง

เราคิดว่าฝั่งประชาธิปไตยรวมกันมันเกิน 300 เสียงแน่ ยังไงๆ ก็เกิน ไทยรัฐโพลน่าสนใจ อันดับ 1 คือเพื่อไทย อันดับ 2 คือ ก้าวไกล แต่ก็เป็นโพลเช็กเรตติ้ง อาจจะมีเอียงนิดๆ มี Bias จากกลุ่มตัวอย่าง ยังไม่สะท้อนภาพทั้งประเทศ สิ่งที่น่าสนใจในนั้น คือ กทม. แทบแบ่งคนละครึ่งระหว่างเพื่อไทยกับก้าวไกล เหลือเศษนิดหน่อย

โพลไหนก็บอกเพื่อไทยกับก้าวไกลชนะ แต่โพลที่ไม่เหมือนใคร คือ ซูเปอร์โพล นอกนั้นจะออกมาแนวใกล้ๆ กัน ตอนสมัยคุณปูได้ 264 เสียง ตอนนั้นเพื่อไทยได้คะแนนนิยม เราคิดว่าฝั่งประชาธิปไตยรวมกันมันเกิน 300 เสียงแน่ ยังไงๆ ก็เกิน

ไทยรัฐโพลน่าสนใจ อันดับ 1 คือ เพื่อไทย อันดับ 2 คือ ก้าวไกล แต่ก็เป็นโพลเช็กเรตติ้ง อาจจะมีเอียงนิดๆ มี Bias จากกลุ่มตัวอย่าง ยังไม่สะท้อนภาพทั้งประเทศ สิ่งที่น่าสนใจในนั้น คือ กทม. แทบแบ่งคนละครึ่งระหว่างเพื่อไทยกับก้าวไกล เหลือเศษนิดหน่อย 
 

เพื่อไทยใจกว้าง
อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ จึงถามกับคุณโทนี่ ว่า มีคนสมัคร ส.ส. กับพรรคเพื่อไทยเยอะมาก ผมในฐานะอดีตผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ อยากสมัครเป็นคนปักษ์ใต้ให้พรรคเพื่อไทยจะได้ไหมครับ

นายโทนี่ ตอบว่า "เท่าที่ผมดูนะ กรรมการพรรคเพื่อไทยเขาใจเปิดกว้าง ใครมีศักยภาพ รับใช้ประชาชนจริง ก็มาสมัครก่อนเลย แล้วมาดูประวัติภูมิหลัง ถ้าไม่แย่แล้วรับใช้ประชาชนได้ เขาก็ยินดีรับ คนที่เคยเป่านกหวีดที่ไม่ได้เป็นแกนนำ เมื่อวันนี้เข้าใจแล้วว่าพลาด มาอยู่ด้วยกันก็ไม่เสียหาย"

เท่าที่ผมเห็นนะ ที่เพื่อไทยประกาศออกมา มีเปอร์เซ็นต์น้อยมากที่เคยไปร่วมกับ กปปส. แต่ไม่ได้ขึ้นเวทีเป็นระดับแกนนำนะ สมมติเราอยากเห็นประเทศปรองดอง บางทีเราก็คงต้องเข้าใจ เราต้องทำความเข้าใจ ถ้าเราไม่รับ เราจะปรองดองกันได้อย่างไร

แต่ถ้าเป็นพวกหัวรุนแรง พวกระดับแกนนำ การที่เพื่อไทยไปรับเขาเข้ามามันก็เป็นเรื่องที่ฝืนความรู้สึกคน ซึ่งไม่ดีแน่ แต่คนที่เคยเป่านกหวีดที่ไม่ได้เป็นแกนนำ เมื่อวันนี้เขาตาสว่างแล้ว เข้าใจแล้วว่าพลาด มาอยู่ด้วยกันก็ไม่เสียหาย

"จริงๆแล้วอิ๊งค์เขาเป็นคนละเอียดนะ และเท่าที่ได้ยินมา กรรมการคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า เคยมีอดีตแบบนี้ มีการเปิดไล่เช็กประวัติ พอรู้ว่าอันนี้เป็นฮาร์ดคอร์ กรรมการต้องถอยเลย แต่ถ้าไปแค่ยืนข้างเวทีเฉยๆ เหมือนผู้เสพ หลงผิด รักษาก็หายได้" 

 

ตะวัน-แบม สู้ด้วย หัวใจและชีวิต

มีผู้ถามถึงกรณี ตะวัน-แบม ที่อดอาหารอยู่ในเรือนจำ นายโทนี่ กล่าวว่า เด็กเขาสู้ด้วยอาวุธที่มี คือ หัวใจและชีวิต กระบวนการทางอาญา เขาถือว่าผู้ถูกกล่าวหายังเป็น “ผู้บริสุทธิ์” จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่ากระทำผิด ต้องมีหลักฐานไม่ใช่กล่าวหากันลอยๆ และพิสูจน์ให้สิ้นซาก วันนี้เด็กเขาถูกกล่าวหาแล้วด่วนสรุปว่าไม่ดี อันนี้ผิดหลักการกระบวนการยุติธรรมทางอาญา มันต้องประกันตัวผู้ที่ถูกกล่าวหาได้

วันนี้เด็กหลายสิบคนยังไม่ได้รับประกันตัว เด็ก 2 คนนี้ (แบมและตะวัน) และเด็กอีกหลายคนปรารถนาดีต่อบ้านเมือง เพียงแต่เขาคิดต่าง ดังนั้นที่เขาถูกดำเนินคดีจึงไม่ใช่เรื่องที่ถูก ผมอยากให้เปิดโอกาสให้มีการประกันตัวทั้งหมด

ในมุมเด็ก ๆไม่มีอาวุธอย่างอื่น เขาไม่มีรถถังไม่มีปืน "อาวุธของเขา คือ หัวใจ" มีความจริงใจ ตรงไปตรงมา พูดได้ทุกเรื่อง รับได้ เขาดีกว่ารุ่นแก่ๆหลายคนที่ไม่ยอมรับผิด ดังนั้นวันนี้ "เขาสู้ด้วยอาวุธที่มี คือ หัวใจและชีวิต" เขาสู้แบบนี้เพื่อให้เพื่อนได้รับความเป็นธรรม ให้กระบวนการยุติธรรมและประชาชน หันมามองความเป็นธรรม

ผมคิดว่าต้องหาข้อยุติ ไม่ใช่มองว่าเด็ก 2 คนตายก็ช่างมัน ไม่ต้องสนใจ จะคิดแบบนี้ไม่ได้ คิดแบบนี้ก็ฉิบ..กันหมดสิบ้านเมือง วันนี้ต้องรีบส่งเขาเข้าโรงพยาบาลด่วน เสร็จแล้วมาพูดคุยกัน แล้วมาดูว่าในฐานะฝ่ายบริหาร จะะก้าวล่วงฝ่ายตุลาการได้แค่ไหน การเจรจาต้องตอบสนองในสิ่งที่เป็นไปได้ ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องแสวงหาความร่วมมือ อย่างเรื่อง ม.116 ถูกใช้จนเละ โบราณท่านว่า "ความกลัวทำให้เสื่อม" คือ วันนี้กลัวแล้วทำร้ายเขา มันเลยเสื่อม เพราะวันนี้เด็กเขาแสวงหาความจริงได้ทุกมุม


ลั่นกลับแน่! อุ๊งอิ๊งค์จะเป็นคนประกาศ

นอกจากนี้ยังมีคำถามด้วยว่า เมื่อไรจะกลับ

"ผมยืนยันว่ายังไงก็กลับ ย้ำว่าไม่ออกกฎหมาย ไม่เกี๊ยะเซียะกับพลังประชารัฐแน่นอน"

 

ก่อนอื่น ผมอยากจะขอโทษทุกท่าน ที่ผมเคยพูดว่า จะกลับไทยในพ.ศ.นี้ ซึ่งผมตั้งใจอย่างนั้นจริงๆ ผมไปทำออกซิเจนให้ทันก่อนสิ้นปี แต่สุดท้ายสถานการณ์ยังอันตราย ลูก ๆ เขาเป็นห่วง

แต่ผมยืนยันว่า "ยังไงก็กลับ" และผมย้ำเลยนะว่า ไม่อาศัยพรรคการเมืองใดรวมถึงเพื่อไทยด้วย อาศัยแค่หัวใจตัวเอง เพราะฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วงผม แล้วย้ำอีกครั้งว่า "อิ๊งค์จะเป็นคนประกาศเองว่าผมกลับเมื่อไหร่" 

"จะไม่มีการออกกฎหมายให้ผม ไม่มีการเกี๊ยะเซียะกับพลังประชารัฐเพื่อออกกฎหมายแน่นอน ผมสร้างตัวเองด้วยตัวเองมาโดยตลอด เรื่องที่จะให้ผมไปง้อคนคงยาก ผมช่วยเหลือตัวเองได้ และยังไงผมก็ต้องกลับ ไม่ไหว เพราะผมโดนกลั่นแกล้งตลอดเวลาที่ผ่านมา"

ขอบคุณเพจ CARE คิด เคลื่อน ไทย

ลั่นกลับไทยแน่

logoline