svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

จับตา “ทักษิณจะกลับบ้าน” ด้วยมุกเดิม ซ้ำรอยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ หรือใช้มุกใหม่

01 กุมภาพันธ์ 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

จับตา มุกใหม่ของ “ทักษิณ” เปลี่ยนจุดอ่อนของความอยากกลับบ้าน ที่เคยทำให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์พัง ให้กลายเป็นจุดแข็ง ส่ง "พรรคเพื่อไทย" แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน

จากกรณีที่ พี่โทนี่ ทักษิณ ชินวัตร ออกมาประกาศอย่างหนักแน่นผ่าน CareTalk x CareClubHouse ถึงการจะกลับบ้านของเขา โดยไม่อาศัยช่องทางกฎหมาย หรือพรรคการเมืองใด แม้แต่ “พรรคเพื่อไทย” ก็กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที

ซึ่งหากย้อนกลับไปเมื่อปี 2557 ปฏิเสธไม่ได้ว่า การอยากกลับบ้านของ ทักษิณ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ “รัฐบาลปู” ต้องพังมาแล้ว แต่เหตุไฉน ทักษิณ จึงหยิบยกเรื่องนี้มาพูดอย่างค่อนข้างถี่ตั้งแต่ต้นปี 2565 ยันปี 2566 โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ใกล้เลือกตั้ง ที่เรื่องนี้อาจกลายเป็นจุดอ่อน ให้ฝ่ายตรงข้ามเห็นช่องทางในการบดขยี้

จับตา “ทักษิณจะกลับบ้าน” ด้วยมุกเดิม ซ้ำรอยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ หรือใช้มุกใหม่ ?

บทความที่น่าสนใจ

ทักษิณ อยากกลับบ้าน นำไปสู่ “ร่างกฎหมายนิรโทษกรรม” ฉบับสุดซอย

เพื่อให้เห็นภาพความเป็นมาในการระหกระเหินอยู่ต่างประเทศของ ทักษิณ ก็ต้องย้อนไปยังการรัฐประหารปี 2549 กระทั่งหลังจากพรรคพลังประชาชน ชนะเลือกตั้งอย่างเกือบแลนด์สไลด์ ทักษิณ ก็ได้กลับบ้านสมใจอยาก ในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 แต่ปีเดียวกันนั่นเอง เขาก็ได้ตัดสินใจเดินทางออกนอกประเทศ และไม่ได้กลับมาเหยียบแผ่นดินไทยอีกเลย เป็นระยะเวลาเกือบ 15 ปี จากการหนีคดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ที่ต่อมาศาลได้ตัดสินจำคุก 2 ปี

หลังจากนั้นก็มีคดีอื่นๆ ตามมาอีกเพียบ แต่ ทักษิณ ก็มีความหวังจะได้กลับบ้านอีกครั้ง หลังจากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ในปี 2554 แต่ด้วยบรรยากาศทางการเมืองในห้วงเวลานั้น คนในชาติยังแบ่งข้างเป็นเหลืองเป็นแดงกันอย่างสุดขั้ว การกลับประเทศของ ทักษิณ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นัก

กระทั่งในช่วงปลายปี 2556 กปปส. ภายใต้การนำของ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ก็ได้จัดชุมนุมต่อต้านรัฐบาล แต่ม็อบก็จุดไม่ติด กระทั่งรัฐบาลมีความพยายามดัน “กฎหมายนิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย” ที่ล้างมลทินให้กับผู้ร่วมชุมนุมและนักการเมืองทุกฝ่าย แต่ก็ถูกมองว่า วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของร่างกฎหมายดังกล่าว คือการเปิดช่องให้ ทักษิณ กลับบ้านโดยไม่ต้องรับโทษในคดีอาญา

หลังจากนั้น กปปส. ก็ใช้ประเด็นนี้ขยี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างหนักหน่วง เมื่อสถานการณ์มีแนวโน้มลุกลามบานปลาย ทำให้รัฐบาลต้องเบรกร่างกฎหมายดังกล่าว และประกาศยุบสภาช่วงกลางเดือนธันวาคม 2556 แต่ก็สายเกินไป เพราะม็อบได้จุดติดแล้ว และได้มีการยกระดับการชุมนุม ก่อนจะมีการประสานกำลังกับเครือข่ายต่างๆ กดดันรัฐบาลจนแทบหมดตาเดิน กระทั่งเมื่อรัฐบาลตกอยู่ในสภาพอ่อนแรง ฝ่ายขวาก็ปิดเกมด้วยการรัฐประหารของคณะ คสช. ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการขึ้นมาเรืองอำนาจของกลุ่ม 3 ป.

สุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส.

“ทักษิณกลับบ้าน” พลิกจุดอ่อน กลายเป็นหมากเด็ด ?

ในจำนวนคดีความต่างๆ ของ ทักษิณ ที่มีโทษจำคุก ประกอบด้วย 4 คดี ดังนี้

1. คดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก โทษจำคุก 2 ปี คดีหมดอายุความไปเมื่อปี 2561

2. คดีทุจริตหวยบนดิน มีโทษจำคุก 2 ปี

3. คดีสั่งการให้ Exim Bank อนุมัติเงินกู้ 4 พันล้านบาท ให้กับเมียนมา มีโทษจำคุก 3 ปี

4. คดีให้นอมินีถือหุ้นชินคอร์ปฯ ที่เป็นคู่สัญญาของรัฐ มีโทษจำคุก 5 ปี

ดังนั้นหาก ทักษิณ กลับมา โดยยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็มีโทษจำคุกรวมกันไม่ต่ำกว่า 10 ปี แต่ความพยายามที่จะกลับมาด้วยการนิรโทษกรรม ก็ทำให้รัฐบาลปูพังมาแล้ว แม้จะมี ส.ส. ของพรรคเกินครึ่งสภาก็ตามที  ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น ถือว่าเป็นบทเรียนที่เจ็บปวดของทักษิณและพรรคเพื่อไทย มาจนถึงทุกวันนี้

และถึงแม้ปัจจุบัน กระแสแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเหลือง - แดง เบาบางลงไปมาก แต่ถ้ายังเดินเกมในแบบเดิม คือหวังให้พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แล้วชงกฎหมายนิรโทษกรรมเหมาเข่งเข้าสภาอีก โอกาสที่จะเกิดม็อบและจุดติด ก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่

แต่ถ้าหากถอดรหัสจากคำพูด ทักษิณ ที่กล่าวว่า “ยังไงผมก็จะกลับ แล้วผมกลับไปนะ ย้ำไว้นะ ไม่อาศัยพรรคการเมืองใดๆ รวมทั้งพรรคเพื่อไทยด้วย แต่อาศัยหัวใจตัวเอง รับรองว่าไม่มีการออกกฎหมาย อย่าไปคิดว่าจะขอเกี้ยเซี้ยะกับพลังประชารัฐ ไม่มี”

จึงมีแนวโน้มว่า การจะกลับบ้านครั้งนี้ จะไม่ใช้มุกเดิม ผ่านช่องทางกฎหมาย อาทิ การออกกฎหมายนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง หรืออื่นๆ ที่เข้าข่ายการเอื้อประโยชน์ให้ ทักษิณ อย่างไม่ชอบธรรม หลังจากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล (ซึ่งก็ยังไม่แน่นอน) เพราะอาจกลายเป็นชนวนให้ถูกเชือด ซ้ำรอยอดีตรัฐบาลยิ่งลักษณ์อีก ก็เป็นได้

จับตา “ทักษิณจะกลับบ้าน” ด้วยมุกเดิม ซ้ำรอยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ หรือใช้มุกใหม่ ?

โดยรายการ Nation Insight ช่อง NationTV22 ได้วิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจว่า หากเพื่อไทยใช้การกลับบ้านของ ทักษิณ เป็นกลยุทธ์ทางการเมือง “ด้วยการเอาตัวแลก” ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก่อนวันเลือกตั้ง ก็จะก่อให้เกิดดราม่าทางการเมือง ที่เรียกคะแนนให้พรรคเพื่อไทยอย่างถล่มทลาย ในระดับแลนด์สไลด์นอนมาแน่ๆ  

ซึ่งก็ต้องจับตากันต่อไปว่า พรรคเพื่อไทย จะกล้าเสี่ยงใช้ “ความอยากกลับบ้านของทักษิณ” ที่เคยเป็น “จุดอ่อน” จนนำไปสู่การรัฐประหาร มาพลิกให้กลายเป็น “จุดแข็ง” ในการโกยคะแนนเพื่อแลนด์สไลด์ หรือเอาเข้าจริงๆ แล้ว ยังมีวิธีอื่นๆ อีก ที่ทำให้ทักษิณกลับบ้านโดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงเข้าตะราง ?

แต่เชื่อเถอะ ต้องไม่ใช่ “มุกนิรโทษกรรมเหมาเข่ง” อย่างแน่นอน ตามคำกล่าวของ “อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์” ที่ว่าไว้  “Insanity is doing the same thing over and over again and expecting different results.”

“มีแต่คนบ้าเท่านั้น ที่ทำสิ่งเดิมซ้ำ แต่หวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง”

logoline