svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

เลือกตั้ง66 เปิดแฟ้ม หญิงแกร่ง "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ" หัวหน้าทสท.

13 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"เลือกตั้ง66" เปิดแฟ้มประวัติ "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ" หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เส้นทางนักการเมืองผู้คร่ำหวอด สู่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 30

"นักการเมืองหญิงจะต้องพัฒนาตัวเอง ด้วยการทำงานอย่างหนัก ซึ่งพรรคการเมืองจะต้องช่วยกันสร้างพลังให้ผู้หญิง พร้อมสร้างแรงบันดาลใจ ให้ผู้หญิงกล้าตัดสินใจเข้าสู่การเมืองมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญต้องปลุกพลังผู้หญิงให้ลุกขึ้นมาสู้ เมื่อมีสัดส่วนผู้หญิงในสภาฯเพียงพอแล้ว เชื่อว่าจะช่วยพัฒนาการเมืองไทย และสังคมไทย"

คำกล่าวของ"คุณหญิงสุดารัตน์  เกยุราพันธ์ุ" หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เมื่อวันที่  17 ธันวาคม 2565  

เลือกตั้ง66 เปิดแฟ้ม หญิงแกร่ง "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ" หัวหน้าทสท.

"คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ"  จัดเป็นนักการเมืองหญิงแถวหน้าของเมืองไทย ที่มีจุดยืนต่อการปกป้องระบอบประชาธิปไตย และรับบทเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองสตรี เพียงไม่กี่คนในการลงทำ"ศึกเลือกตั้ง 66"  

ด้วยความเป็นสุภาพสตรีแต่หัวใจแกร่งไม่แพ้ชายชาตรี  ครั้งหนึ่ง "คุณหญิงสุดารัตน์"  เคยกล่าวไว้เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2565  ว่าเมื่อเริ่มต้นเข้าสู่การเมือง ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ถูกมองเป็นเพียงไม้ประดับ ถูกใส่ร้ายป้ายสีด้วยความอคติ

แต่การเป็นผู้หญิงยังมีข้อดี คือมีความเป็นแม่ มองการเมืองอย่างละเอียดอ่อน มองอนาคตอย่างยั่งยืน และสนใจประเด็นด้านการศึกษา คุณภาพชีวิต จิตใจ คุณธรรม

และหากถ้ามีนักการเมืองหญิงมากๆ จะส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาประเทศ โดยตั้งเป้าหมายให้มีสัดส่วนผู้หญิงในการเมืองไม่น้อยกว่าร้อยละ 30

"นักการเมืองหญิงจะต้องพัฒนาตัวเอง ด้วยการทำงานอย่างหนัก ซึ่งพรรคการเมืองจะต้องช่วยกันสร้างพลังให้ผู้หญิง พร้อมสร้างแรงบันดาลใจ ให้ผู้หญิงกล้าตัดสินใจเข้าสู่การเมืองมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญต้องปลุกพลังผู้หญิงให้ลุกขึ้นมาสู้ เมื่อมีสัดส่วนผู้หญิงในสภาฯเพียงพอแล้ว เชื่อว่าจะช่วยพัฒนาการเมืองไทย และสังคมไทย"


 

เปิดแฟ้มประวัติ "คุณหญิงสุดารัตน์"  หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เกิด 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2504 อายุ 61 ปี

๐ มัธยมเซนต์โยเซฟคอนเวนต์

๐ ปริญญาตรี ด้านการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

๐ ปริญญาโท บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ (MBA จาก GIBA)

๐ ปริญญาเอก พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา จากบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

๐ ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนครพนม

 

เส้นทางการเมือง

"คุณหญิงสุดารัตน์" เข้าสู่แวดวงการเมืองครั้งแรกในการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2535 ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต 12 พรรคพลังธรรม ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขต 7 พรรคพลังธรรม เป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ในรัฐบาล ชวน หลีกภัย หรือ รัฐบาลชวน 1/1

กระทั่งในปี 2537 "คุณหญิงสุดารัตน์" ได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการพรรคพลังธรรม และได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลของนายชวน หลีกภัย หรือรัฐบาลชวน 1/2 ต่อมาได้จัดให้มีการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2538 คุณหญิงสุดารัตน์

ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต 7 พรรคพลังธรรม  ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลของ"นายบรรหาร ศิลปอาชา" หรือรัฐบาลบรรหาร 1 จนกระทั่งมีการยุบสภาผู้แทนราษฎรและมีการเลือกตั้งในปีถัดมา
เลือกตั้ง66 เปิดแฟ้ม หญิงแกร่ง "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ" หัวหน้าทสท.

จากนั้นในการเลือกตั้งในปี 2539 "คุณหญิงสุดารัตน์" ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต 7 ในสังกัดพรรคพลังธรรม เพียงคนเดียวในสภาฯ ต่อมาได้ลาออกจากพรรคพลังธรรม และย้ายไปสังกัดพรรคไทยรักไทย รวมทั้งได้รับแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย

ในปี 2544 "คุณหญิงสุดารัตน์" ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคไทยรักไทย และได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ดูแลรับผิดชอบงานนโยบายสำคัญของรัฐบาลพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร (ยศขณะนั้น) คือ นโยบายสามสิบบาทรักษาทุกโรค

ต่อมาปี 2548 ได้รับเลือกตั้งอีกสมัย และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จนกระทั่งถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ( 30 พ.ค. 50 - 30 พ.ค. 55 ) เนื่องจากเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549

ภายหลังพ้นกำหนดถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง"คุณหญิงสุดารัตน์" ได้เข้ารับตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย และเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ในนามพรรคเพื่อไทย ในปี 2562

ต่อมา"คุณหญิงสุดารัตน์"ได้ลาออกจากพรรคเพื่อไทย และร่วมก่อตั้ง"พรรคไทยสร้างไทย" ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย


เลือกตั้ง66 เปิดแฟ้ม หญิงแกร่ง "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ" หัวหน้าทสท.

สำหรับบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่แสดงต่อ ป.ป.ช. คัดมาเฉพาะภายหลังพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2550 แจ้งมีทรัพย์สินรวมทรัพย์สิน 869,848,236.32 บาท รายละเอียดดังนี้

เงินฝาก 4,826,181.27 บาท

เงินลงทุน 3,069,000 บาท

เงินให้กู้ยืม 29,000,000 บาท

ที่ดิน 723 แปลง มูลค่า 767,503,375 บาท

โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 43,530,000 บาท

ยานพาหนะ 7 คัน 3,975,000 บาท

ทรัพย์สินอื่นๆ 17,864,680.05 บาท

รวมหนี้สิน 18,421,226.88 บาท

ทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 851,427,009.44 บาท

คู่สมรส นายสมยศ ลีลาปัญญาเลิศ  มีทรัพย์สิน 89,797,448.83 บาท รายละเอียด ดังนี้

เงินฝาก 9,714,453.15 บาท

เงินลงทุน 14,819,275 บาท

เงินให้กู้ยืม 11,195,000 บาท

ที่ดิน 141 แปลง มูลค่า 14,732,325 บาท

โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 18,400,000 บาท

ยานพาหนะ 10 คัน 2 ลำ 8,475,253 บาท

ทรัพย์สินอื่นๆ 12,011,142.68 บาท

รวมหนี้สิน 15,000,000 บาท

ทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 74,797,448.83 บาท

เด็กชายภูมิภัทร, เด็กชายพีรภัทร, เด็กหญิงยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเงินฝาก 2,804,926.44 บาท

สรุปบัญชีทรัพย์สิน"คุณหญิงสุดารัตน์" และคู่สมรส ในช่วง 6 ปี ตั้งแต่ 2544-2550 ประมาณ 875.6 - 962.3 ล้านบาท

เลือกตั้ง66 เปิดแฟ้ม หญิงแกร่ง "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ" หัวหน้าทสท.

logoline