
"ผมได้คุยกับท่านนายกฯประยุทธ์แล้ว ท่านไม่ใช่แค่จะรับเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรครวมไทยสร้างชาติเท่านั้น แต่จะลงสมัครเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เบอร์ 1 ของพรรคด้วย เพื่อความสง่างาม และไม่อยู่ลอยๆ แบบเดิมอีกแล้ว"
"นายไตรรงค์ สุวรรณคิรี" ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวไว้ในงานเสวนาในโอกาสสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งครบรอบ 2 ปี เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566
กลายเป็นประเด็นข่าวใหญ่ ข่าวใหม่ ขึ้นมาทันที หลังจากที่ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" เก็บงำความลับนี้ไม่บอกใคร แต่"นายไตรรงค์" ก็หลุดคำพูดต่อสาธารณชน
โดยข้อเท็จจริง มีความเคลื่อนไหวของ"พรรครวมไทยสร้างชาติ"ในการจัดโครงสร้างพรรค กำหนดตำแหน่งคณะผู้บริหารตั้งแต่เมื่อค่ำวันอังคารที่ 31 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา โดยวันนั้น "พล.อ.ประยุทธ์"ยังได้ปรากฎตัวร่วมประชุมที่พรรครทสช.เป็นครั้งแรกด้วยและมีการเคาะชื่อกันเรียบร้อย ให้"พล.อ.ประยุทธ์" เป็นปาร์ตี้ลิสต์เบอร์1 และแคนดิเดตนายกฯของพรรค
ทำให้ชวนให้วิเคราะห์ สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา เมื่อ"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา"นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจลงปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์ 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ คือ
1. เป็นภาพสะท้อนว่า พล.อ.ประยุทธ์ "ทุ่มสุดตัว" กับศึกเลือกตั้ง 66 ถึงขั้นลงมาเล่นในระดับ "เป็น ส.ส." กันเลย แบบนี้แสดงว่าไม่มีทางวางมือการเมือง
2. เป็นการเดิมพันด้วยชีวิตการเมือง ถ้าชนะก็เป็นนายกฯ ถ้าแพ้ต้องเป็นฝ่ายค้าน เพราะเป็น ส.ส. ต้องเข้าสภา ต้องลุกขึ้นอภิปราย หรือไม่ก็ลาออก ให้เลื่อนลำดับให้คนอื่นขึ้นมาเป็นแทน ซึ่งคงจะถูกวิจารณ์อย่างหนัก
3. สะท้อนว่านายกฯ เอาจริง
4. ป้องกันปัญหา “ขาลอย” ทุกกรณี เพราะมีตำแหน่ง ส.ส.ให้ยึดอยู่
จังหวะก้าวของนายกฯ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ แม้แต่ นักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิระดับ “กูรูการเมือง” คือ "รศ.สุขุม นวลสกุล" อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ และอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ให้ความเห็นไว้ดังนี้
- การที่ "พล.อ.ประยุทธ์" มาลงบัญชีรายชื่ออันดับ 1 เพราะการเป็นแคนดิเดตอย่างเดียวไม่ปัง ดังนั้นจะเล่นเกมไหนให้ปัง จึงจำเป็นต้องทุ่มหมดตัว
- ถือว่าเป็นทีเด็ด เพื่อให้ภาพลักษณ์นักการเมืองสู้ "บิ๊กป้อม" พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้ได้ เพราะที่ผ่านมา "บิ๊กป้อม" ดูเป็นนักการเมืองมากกว่า
- ที่ผ่านมา "พล.อ.ประยุทธ์" เอาแต่มีอารมณ์หงุดหงิดเวลาที่ถูกสื่อมวลชนถามคำถามไม่ถูกใจ วันนี้จึงต้องปรับภาพลักษณ์ ชิงแต้มกลับมา
- ทั้ง 2 ฝ่ายกำลังแข่งกันเอง (บิ๊กตู่ - บิ๊กป้อม) และเหมือนว่าทั้งคู่จะเริ่มทันเกมกัน
- การทุ่มลงเป็นบัญชีรายชื่ออันดับ 1 "บิ๊กตู่" ยังหวังสร้างความเชื่อมั่น ดึงส.ส.ให้มาเข้ารวมไทยสร้างชาติมากขึ้นด้วย
- แต่ข้อควรระวังก็คือ เมื่อมาลงบัญชีรายชื่อเองแล้วไม่ได้เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล จะกลายเป็นฝ่านค้าน
- โอกาส "2 ลุง" เป็นฝ่ายค้านทั้ง 2 คน มีเหมือนกัน เพราะต้องอย่าลืมว่าตอนนี้ อาจจะมีฝ่ายที่อยากเห็นทั้ง 2 นั่งฝ่ายค้านด้วยกันก็ได้ โดยอาจเทคะแนนไปให้อีกฝ่ายหนึ่งแทน
ขณะที่ "ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร" จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความเห็นกรณีดังกล่าว ดังนี้
- "ลุงตู่" ทุ่มสุดตัวแน่นอน และเป็นไปตามแบบแผนพรรคการเมืองในการเลือกตั้ง ซึ่งจะดูดีกว่าแคนดิเดตนายกฯของพรรคอื่น ที่ไม่ลงบัญชีรายชื่อ
ทางด้าน "รศ.ดร.เจษฎ์ โทณวณิก" ประธานคณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย ให้ความเห็นว่า
- การตัดสินใจครั้งนี้ของ"นายกฯประยุทธ์" คือการสร้างจุดแข็งมาลบจุดอ่อนที่ทำให้พรรคพลังประชารัฐไม่สามารถเป็นฐานที่มั่นต่อไปได้
- นายกฯในระบบรัฐสภา ต้องดูแลพรรค ดูแลรัฐมนตรี และรับผิดชอบต่อสภา แต่ที่ผ่านมา"ลุงตู่" ไม่ได้ดูแลอะไร กลายเป็นจุดอ่อน
- การตัดสินใจสังกัดพรรค และกำลังจะลงปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ถือเป็นสิ่งที่ควรทำ
- แต่ยังเชื่อว่า"นายกฯ" จะไม่ถึงขั้นไปร่วมเวทีดีเบต โดยให้หัวหน้าพรรคไปร่วมแทนได้
- หากรวมไทยสร้างชาติได้ ส.ส.ไม่ถึง 25 คน "ลุงตู่"ต้องไปเป็นฝ่ายค้าน หรือต่อให้ร่วมรัฐบาลก็ไม่ได้เป็นนายกฯ
- การลงสมัคร ส.ส.ของ "พล.อ.ประยุทธ์" รอบนี้ เพราะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ "พล.อ.ประวิตร" ซึ่งถือเป็นงานยากสำหรับนายกฯ เนื่องด้วย "ลุงป้อม" คลุกวงในการเมืองมานาน อีกทั้งยังครบเครื่องกว่า
"วันนี้จึงจำเป็นต้องแลก คุ้มหรือไม่...ไม่รู้ แต่ถ้า "พล.อ.ประยุทธ์" ไม่ลงมาแบบนี้ ก็เดินหน้าลำบาก"
ปิดท้ายด้วยความเห็นจาก อดีตผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานความมั่นคง ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลให้ความเห็นไว้ดังนี้
- นายกฯประยุทธ์เอาจริง และมีความพร้อมทุกด้าน
- ทีมงาน "วงใน" ของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมีทั้งทีมปกติและทีมพิเศษ ยืนยันว่า งานนี้แพ้ไม่ได้
- ยังย้ำว่า "บิ๊กป้อม" ไม่ได้ขัดแย้ง "บิ๊กตู่" แต่แยกกันเดินตามแนวทางที่แต่ละคนถนัด แล้วค่อยไปร่วมมือกันตอนตั้งรัฐบาล
งานนี้ใกล้เข้าสู่การประกาศ"ยุบสภา" ผู้เล่นระดับนำอย่าง "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" เริ่มปล่อยไพ่ไม้ตาย แสดงตัวตนบนสมรภูมิ"เลือกตั้ง66" ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
ศึกชิง"เก้าอี้นายกฯคนที่ 30" เดิมพันไว้สูงยิ่งนัก