19 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ได้ออกหมายจับ นายอิทธิพล ดวงเดือน กรรมการผู้จัดการบริษัท พลวิศว์ เทค จำกัด (ผู้ชนะการประมูล) และนายสุรพงษ์ ตรียานนท์ กรรมการบริษัท เอ็กซ์ ทู ที อินดัสตรี จำกัด (คู่เทียบประมูล) ในการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ของ อบจ.สงขลา ในความผิดฐานใช้เอกสารปลอม และ ฮั้วประมูล เป็นเหตุให้ อบจ.สงขลา ได้รับความเสียหาย เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา
ซึ่งก่อนหน้านี้ ศาลได้ออกหมายจับแล้ว เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2565 แต่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้หลบหนีออกนอกประเทศ โดยพบว่า นายอิทธิพล และนายสุรพงษ์ ได้เดินทางหลบหนีออกนอกประเทศตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. 2565 ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ประเทศจอร์เจีย และเดิมคดีได้ขาดอายุความไปเมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา
สำหรับการออกหมายจับใหม่แบบไม่มีอายุความนี้ สืบเนื่องจาก พ.ร.บ. ป.ป.ช. 2554 ฉบับที่ 2 มาตรา 74/1 กำหนดไว้ว่าในกรณีที่ผู้ต้องหาหลบหนีระหว่างถูกดำเนินคดีนั้น ไม่ให้นับระยะเวลาหลบหนีเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ มีผลให้คดีดังกล่าวไม่มีกำหนดอายุความแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายอิทธิพล ยังเป็นกรรมการ บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ผู้ชนะการประมูล การจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางของ อบจ.สงขลา ที่ นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา ในขณะนั้น ไม่อนุมัติจ่ายเงินให้ เนื่องจากนายนิพนธ์ ตรวจพบการกระทำความผิดของกลุ่มเอกชนดังกล่าว และได้แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มเอกชนที่ร่วมกันฮั้วประมูล และศาลได้ออกหมายจับบริษัทเอกชนที่เข้าร่วมการประมูลทุกรายในที่สุด
ส่วนคดีนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าเหตุใด คณะกรรมการ ป.ป.ช. ถึงยังดำเนินคดีกับนายนิพนธ์ ที่ไม่อนุมัติจ่ายเงินให้ผู้ชนะการประมูล เนื่องจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้ตรวจพบการกระทำที่ผิดกฎหมายในการประมูลจัดซื้อ คือ มีการปลอมเอกสารและฮั้วประมูล และบัดนี้ศาลอาญาทุจริตฯ ภาค9 ก็ได้ออกหมายจับผู้เข้าร่วมการประมูลครั้งที่ 1-2 ทุกรายแล้ว