svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เปิดคลิปเสียงเหยื่อ เจรจา ทนาย ส. "ตาวิศ" ยัน ไม่เคยเรียกรับเงินปิดคดี

09 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เปิดคลิปเสียงเหยื่อ 16 ปี เจรจา ทนาย ส. ด้าน ตาวิศ คนดูแลเด็ก ยืนยัน ไม่เคยเรียกรับเงินเพื่อปิดคดี แต่เป็นตัวกลางช่วยเจรจาค่าเสียหาย ให้เด็กไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ แจงยิบ รับเงินมา 2 หมื่นบาท โอนให้เหยื่อ 1.8 หมื่นบาท ขอค่าน้ำมันรถ 2 พันบาท เพราะกำลังช็อต

9 ธันวาคม 2565 ความคืบหน้ากรณีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน พร้อมด้วย นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์ หรือ "กัน จอมพลัง" พาผู้เสียหายอายุ 16 ปี ที่ถูกทนายความของลุงพลขืนใจ เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร เพื่อให้ดำเนินคดี ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี

หลังจากเข้ามาแจ้งความไว้ตั้งแต่เดือนกันยายน แต่คดีไม่มีความคืบหน้า โดยทนายตั้ม ให้ข้อมูลว่า คุณตาที่ช่วยเหลือผู้เสียหาย แอบตบทรัพย์ทนาย หวังปิดคดี ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 


ต่อมา นายภวิศ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือ เด็กอายุ 16 ปี ได้เดินทางมาที่ สน.สุทธิสาร พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ ตนเองก็รู้สึกแล้วว่ามีอะไรแปลก ๆ ตั้งแต่หมอปลาพาเข้าไปที่สำนักงานทนายตั้ม และเขาให้ตาอยู่ที่สำนักงาน และบอกว่าเดี๋ยวจะพามาที่โรงพักเพื่อให้สัมภาษณ์ แต่มารู้ทีหลังว่า ทนายตั้มพาเด็กมาที่นี่ ทำให้ตนเองต้องตามมา และมองว่ามีเจตนาอะไรหรือไม่

เปิดคลิปเสียงเหยื่อ เจรจา ทนาย ส. "ตาวิศ" ยัน ไม่เคยเรียกรับเงินปิดคดี

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่ากรณีทนายตั้มให้สัมภาษณ์ว่า คนที่ดูแลใช้เด็กไปเรียกรับเงิน 50,000 บาท เป็นความจริงหรือไม่

แจงยิบ เงินจากทนาย ส. โอน ให้เหยื่อหมด

นายภวิศ อธิบายว่า หลังจากที่น้องผู้เสียหายถูกกระทำชำเรา ก็ต้องการเงิน 100,000 บาท เพื่อจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ แล้วเด็กอัดเสียงการพูดคุยกับทนายความ ส. ไว้ และส่งมาให้ตนเอง ซึ่งเห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่จึงส่งคลิปเสียงไปให้ ทนาย ส. หวังช่วยเคลียร์ให้จบกันไป เพราะตนเองก็เคยร่วมงานคดีลุงพล แต่กลับถูกมองว่า ไปเรียกรับเงิน

พอตนเองส่งคลิปเสียงไปให้ ซึ่งเด็กต้องการ 100,000 บาท แต่ทนายความ ส. บอกว่าหาเงินไม่ทัน เลยต่อรองขอจ่าย 50,000 ผ่านตนเอง ให้เงินก้อนแรกมา 20,000 บาท ตาก็โอนเงินให้เด็กไป ครั้งแรก 6,000 บาท ครั้งที่สอง 10,000 บาท และครั้งที่ 3 อีก 2,000 บาท อีก 2,000บาท ไม่ได้โอนให้ เพราะตอนนั้นจะไปคดีที่ปราจีนบุรี ตนเองกำลังช็อต เลยบอกเด็กว่า ขอแบ่ง 2,000 บาท เป็นค่าน้ำมัน

ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่เคยได้เงิน 50,000 บาท และไม่เคยเอาเด็กไปเรียกรับผลประโยชน์ หรือเอาเด็กไปหากินแน่นอน แถมตนเองยอมเสียผลประโยชน์ ความสัมพันธ์กับทนายความคนดังกล่าว เพื่อมาดูแลเด็ก ตนเองเป็นคนตรงไปตรงมา เอาไปสาบานที่ไหนก็ได้ ให้ตายห่ารถชนไปเลย

ผู้สื่อข่าวได้รับคลิปเสียงที่น้องอายุ 16 ปี พูดคุยกับทนาย ส. ถึงเรื่องการขอเงิน 100,000 บาท เพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ซึ่งผู้เสียหายระบุว่า ให้โอนเงินมาเข้าบัญชีผู้เสียหาย ต่อมาทนายความได้ต่อรองให้โอนครั้งแรก 50,000 บาท ก่อนที่สุดท้ายจะมีการโอนเงินมาที่บัญชีนายภวิศ จำนวน 20,000 บาท 

 

>>เปิดคลิปเสียงเหยื่อ เจรจา กับ ทนาย ส.<<

เปิดสลิปโอนเงิน ทนาย ส.จ่ายค่าเสียหายเหยื่อ

ทั้งนี้ นายภวิศ ได้โชว์หลักฐานการโอนเงิน ให้กับผู้สื่อข่าวดู สลิปแรก เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2565 ประมาณ 14.07 น. ทนายความ ส. โอนเงินเข้ามาบัญชีนายภวิศ 20,000 บาท ก่อนที่นายภวิศ จะโอนเงินไปให้ผู้เสียหาย จำนวนเงิน 6,000 บาท

เปิดคลิปเสียงเหยื่อ เจรจา ทนาย ส. "ตาวิศ" ยัน ไม่เคยเรียกรับเงินปิดคดี

เปิดคลิปเสียงเหยื่อ เจรจา ทนาย ส. "ตาวิศ" ยัน ไม่เคยเรียกรับเงินปิดคดี

วันที่ 8 กันยายน 2565 เวลา 13.59 น. นายภวิศ โอนเงินไปให้บัญชีเด็ก อีก 10,000 บาท และวันที่ 15 กันยายน 2565 เวลา 20.27 น. นายภวิศ โอนเงินไปให้เด็กอีก 2,000 บาท

เปิดคลิปเสียงเหยื่อ เจรจา ทนาย ส. "ตาวิศ" ยัน ไม่เคยเรียกรับเงินปิดคดี เปิดคลิปเสียงเหยื่อ เจรจา ทนาย ส. "ตาวิศ" ยัน ไม่เคยเรียกรับเงินปิดคดี

รวมโอนเงิน 3 ครั้ง ทั้งสิ้น 18,000 บาท 

ส่วนที่ ทนาย ส. โอนให้ก่อนหน้านี้ เป็นเงินที่ไปช่วยทำคดีลุงพล ไม่เกี่ยวกับเงินที่ ทนาย ส. โอนเงินมาให้เด็กหลังเกิดกรณีขืนใจผู้เสียหาย จากนี้จะขอดูคลิปที่ทนายตั้ม ให้สัมภาษณ์ก่อนว่าจะดำเนินคดีหรือไม่ เพราะทำให้ตนเองเสียหาย

logoline