ตายันเด็กสาวถูก "ทนายลุงพล" ขืนใจเรื่องจริง บอกชีวิตผู้เสียหายเหมือนละคร

7 ธันวาคม 2565 ความคืบหน้ากรณี “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์ข้อความระบุว่า “เด็กหญิง วัย 16 ปี เขียนจดหมายมาเล่าเรื่องราวว่า ถูกทนาย อักษรย่อ ส. ทนายชื่อดัง แถวบ้านกกกอก กระทำชำเรา และได้มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว แค่คดีไม่คืบหน้า จึงอยากขอให้ช่วยตามคดีให้ จะจริงหรือเท็จโปรดติดตาม” 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 
๐ "ทนายตั้ม" ชี้หลักฐานมัด "ทนายลุงพล" พรากผู้เยาว์ เตรียมนัดเหยื่อคุย
๐ "ทนายตั้ม" แฉทนาย "ลุงพล" ขืนใจสาววัย 16 ตร.งงเหยื่อไม่ให้ความร่วมมือ 

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเนชั่นฯ คุณอิทธิพัทธ์ ปิ่นระโรจน์ ได้พูดคุยกับ นายภวิศ ผาสุข ชาวสมุทรปราการ ที่ผู้เสียหายนับถือเป็นตา โดยเล่าให้ฟังตั้งเเต่ต้นว่า ไม่เคยรุ้จักกับเด็กมาก่อน ไม่ใช่ญาติแท้ ๆ มารุ้จักกันตอนเพราะเป็นประธานสหภาพเเรงงาน วัฒนะไพศาล เมื่่อช่วงเดือน ก.ย. 64  เนื่องจากเด็กมาขอความช่วยเหลือ ตอนที่เขาหนีมาหาพ่อเขาที่ จ.สมุทรปราการ 

โดยเด็กหญิงผู้เสียหายเล่าชีวิตให้ฟัง ตามที่เขียนในจดหมายว่า ถูกล่วงละเมิดต่าง ๆ จากพ่อลูก ที่ จ.ปราจีนบุรี เเล้วตาก็ช่วยดำเนินคดีกับคนที่ข่มขื่น  เรียกค่าเสียหายไป 70,000 บาท และผู้ที่ก่อเหตุตอนนี้ตอนนี้อยุู่ในคุก 

จากนั้นตนก็หาทางช่วยเหลือเด็กหญิงรายนี้ ด้วยการร่างหนังสือ ขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานต่าง ๆ และก็รู้จักกับทนาย ส. คนที่ก่อเหตุ เพราะเขารู้จักนักการเมืองเยอะ จึงอยากให้เขาช่วยเหลือ เขาก็รับปากว่า เอามาอยุู่กับเขาก็ได้ เดี๋ยวจะส่งให้จบปริญาตรี และให้ทำงานเป็นเเม่ครัว 

พอช่วงเดือน ธ.ค. 64 ทนายคนดังกล่าว ก็มีรับผู้เสียหายจากสมุทรปราการ ไปอยู่ห้องเช่าเเถวดินเเดง จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย เเต่พอเกิดปัญหาการละเมิดทราบว่า ไม่ได้มีการส่งเสียเลี้ยงดูอีกเลย ทำให้เด็กมีความกดดัน เเละพยายามขอความช่วยเหลือ "ย้ำว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเรื่องจริง" 

ทั้งนี้ผู้เสียหาย มีหลักฐานทั้งคลิปภาพ คลิปเสียงที่เก็บไว้ รวมถึงข้อความเเชทที่ผ่านมา และพยายามส่งจดหมายไปขอคำเเนะนำกับทนายตั้มจริง  รวมถึงร้องเรียนไปหลายที่ ทั้งเพจสายไหมต้องรอด , เพจอีจัน , มูลนิธิปวีณาฯ  ฯลฯ จากนั้นตนจึงเเนะนำ ให้ร้องไปยัง "ทนายตั้ม" เเละทนายตั้มก็รับเรื่องไว้ 

เเต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่า ข่าวออกมาในด้านลบ เลยทำให้เด็กเสียใจ ผิดหวัง เวลาเสียหายทั้ง 2 ฝ่าย ตัวของตนก็เสียหาย เพราะทางครูก็เเนะนำเด็กว่า อย่าไปเชื่อตนมาก เพราะเป็นพวกเดียวกันกับทนายที่ก่อเหตุ ทำให้เด็กไม่ไว้วางใจ และเมื่อทนายดังออกมารับเรื่องก็กลายเป็นว่า เด็กจะไปรีดเอาทรัพย์ผู้ก่อเหตุ ตอนนี้เขาเลยไม่อยากจะขอความช่วยเหลืออะไร เเต่เขายืนยันว่า ต้องการจะดำเนินคดี ให้ถึงที่สุด 

นายภวิศ กล่าวว่า ผู้เสียหายบอกว่า ช้ำใจ ถูกกระทำไป 4 ครั้ง บอกว่า "หนูขยะเเขยงมาก เเต่หนูไม่มีทางเลือก เด็กผู้เสียหาย เคยขอทุนการศึกษา 1- 2 เเสนบาท เพื่อไปเริ่มชีวิตใหม่ เเต่เขาก็ไม่สนใจ" หลังเกิดเหตุได้คุยกับทนายคนดังกล่าว เเต่เขาเป็นคนมีอีโก้คิดว่า เป็นคนมีชื่อเสียง จึงไม่ยอมเจรจาใดใด 

นายภวิศ กล่าวว่า ย้ำว่า ชีวิตเด็กสาวผู้เสียหาย ยิ่งกว่าละครน้ำเน่า เพราะตอนที่โดนกระทำชำเราจากสองพ่อลูก อายุ 15 ปี 8 เดือน เเละตอนโดน ทนาย ส.กระทำชำเรา อายุ 16  ปี ตอนนี้ผู้เสียหายอายุ 18 ปีเเล้ว ได้ไปทำงานอยู่ที่ จ.ขอนเเก่น 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าว ได้พยายามสอบถามประเด็นในมุมของการดำเนินคดี ไปยังผู้เสียหาย เพราะไม่อยากที่จะไปทำให้ผู้เสียหายต้องช้ำใจซ้ำ เมื่อต้องเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยผู้เสียหายยืนยันว่า ต้องการจะเอาเรื่องถึงที่สุด ไม่ต้องการเงิน ต้องการจะดำเนินคดี 

นอกจากนี้ ตลอดทั้งวัน ผู้สื่อข่าวได้พยายามที่จะติดต่อไปยัง ทนายคนที่ถูกกล่าวพาดพิงถึง แเต่ไม่รับสาย มีเพียงเสียงตอบรับ ว่า ผมทนาย ...สุรชัย ตอนนี้ ไม่สามารถติดต่อได้ ให้ฝากข้อความไว้ .. เเละยังไม่มีการออกมาชี้เเจงใดใด ๆ