แหล่งข่าวในกองทัพไต้หวัน เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า กองทัพจะจัดการซ้อมรบที่ใช้กระสุนจริงในเขตผิงตงทางภาคใต้ในวันที่ 9 และ11 ส.ค. โดยมีแผนซ้อมยิงปืนใหญ่ ฮาวอิตเซอร์ และปืน ค.
นอกจากนี้กองทัพมีกำหนดจัดการซ้อมรบประจำปีที่เขตผิงตงในวันที่ 5 ก.ย. ซึ่งจะมีหน่วยแม่นปืนจากกองทัพ ยานพาหนะต่อสู้ภาคพื้นดิน ยานเกราะ และปืนค. เข้าร่วมการฝึกซ้อม
แผนการซ้อมรบของไต้หวันจะจัดขึ้นหลังกองทัพจีนเริ่มการซ้อมรบกระสุนจริงครั้งใหญ่ที่สุดในน่านน้ำ 6 จุดรอบเกาะไต้หวันตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค. โดยในวันนั้นกองทัพจีนยิงขีปนาวุธ “ตงเฟิง” จำนวน 11 ลูกตกในน่านน้ำใกล้ไต้หวัน เพื่อตอบโต้ที่แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เยือนไต้หวันนาน 19 ชม. ระหว่างวันที่ 2-3 ส.ค.
ด้านกระทรวงคมนาคมไต้หวัน แถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า เที่ยวบินผ่านน่านฟ้าไต้หวันเริ่มทยอยให้บริการตั้งแต่ช่วงเที่ยงวันเดียวกัน หลังจากการซ้อมรบของจีนสิ้นสุดลงแล้วในช่วงเที่ยงวัน แต่ไต้หวันจะยังขอให้เที่ยวบินและเรืออยู่ให้ห่างจากพื้นที่ซ้อมรบของจีนทางชายฝั่งภาคตะวันออกของไต้หวันจนถึง 10.00 น. ของวันที่ 8 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่น
ก่อนหน้านั้นกระทรวงกลาโหมไต้หวัน อ้างว่า เครื่องบินรบและเรือรบของจีนปวนเปี้ยนใกล้เส้นแบ่งเขตแดนอย่างไม่เป็นทางการระหว่างไต้หวันและจีนในช่องแคบไต้หวัน ซึ่งถือว่าเป็นการจำลองการโจมตีไต้หวัน และกองทัพได้ส่งเรือรบและเครื่องบินรบเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด และสั่งให้ระบบขีปนาวุธต่อต้านเรือรบ และขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานพร้อมรับมือ รวมทั้งยืนยันว่า จีนไม่สามารถข้ามเส้นเขตแดนดังกล่าว
รัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวหาว่า การซ้อมรบของจีนเป็นการยั่วยุและไร้ความรับผิดชอบ แต่จีนตอบโต้ว่า สหรัฐฯ เป็นฝ่ายยั่วยุจากการเยือนไต้หวันของเพโลซี และสื่อจีน รายงานว่า รัฐบาลได้รับเสียงสนับสนุนจากกว่า 160 ประเทศ ที่เห็นด้วยกับความชอบธรรมของจีนในการปกป้องอธิปไตยของตัวเอง และประชาคมโลกส่วนใหญ่ประณามหรือแสดงความกังวลว่า การกระทำของเพโลซีเป็นการยั่วยุและไร้ความรับผิดชอบ ที่คุกคามต่อสันติภาพของโลก และสิ่งนี้สะท้อนว่า หลักการจีนเดียวเป็นฉันทามติของนานาชาติ