4 สิงหาคม 2565 นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ต่อกรณีที่การประชุมร่วมรัฐสภาล่ม เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาระบุว่า
ตามเกมการเมืองสภาขณะนี้ เห็นคำตอบชัดเจนว่าต้องการให้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่...) พ.ศ.... กลับไปใช้จำนวน 100 คนหาค่าเฉลี่ย โดยใช้ช่องทางให้รัฐสภาพิจารณาไม่เสร็จภายในกำหนดเวลา 180 วัน ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 132 กำหนดว่า หากรัฐสภาพิจารณาไม่แล้วเสร็จ ต้องกลับไปใช้ร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. ที่เสนอเข้าสู่รัฐสภาวาระแรก ส่วนจะเป็นฉบับใดใน 4 ฉบับ ที่เสนอต่อรัฐสภา ไม่ใช่หน้าที่ที่จะให้ความเห็น
"ฐานะสมาชิกรัฐสภาและในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการพิจารณา พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. คราวนี้ ถือว่าได้ทำหน้าที่ครบถ้วนแล้ว แม้จะไม่สมบูรณ์ เพราะขบวนการล่มสภา ซึ่งก็พูดไม่ออกครับ สงสารท่านประธานรัฐสภา อาจารย์ทางกฎหมายที่ผมเคารพอย่างยิ่ง ต้องอดทนอดกลั้น นั่งรอขอคะแนนสมาชิกทีละคนทีละมาตรา นานครั้งละครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง เจอเกมการเมืองล่มสภาแบบนี้เสียดายเงินภาษี" นายสมชาย ระบุ
ขณะที่ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. ให้ความเห็นไว้ในกรณีดังกล่าวด้วยว่า หากรัฐสภาพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ไม่เสร็จตามกรอบเวลา ในวันที่ 15 ส.ค. รัฐธรรมนูญกำหนดให้กลับใช้ร่างที่เสนอมาในชั้นวาระรับหลักการ ตามรัฐธรรมมนูญ มาตรา 132 (1) กำหนดไว้
ทั้งนี้ ในชั้นรับหลักการ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ รัฐสภาลงมติรับหลักการรวม 4 ฉบับ ได้แก่ ของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามข้อเสนอของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคร่วมรัฐบาล และ พรรคก้าวไกล
แม้ในเนื้อหาของมาตราดังกล่าว จะไม่กำหนดว่าให้ใช้ร่างที่เสนอโดย ครม. แต่ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 101 กำหนด รายละเอียดว่า กรณีที่รัฐสภาพิจารณาร่างพ.ร.ป.ไม่เสร้จตามกรอบเวลา 180 วัน ตามที่รัฐสภาให้บรรจุระเบียบวาระการประชุม ให้ถือว่ารัฐสภาให้ความเห็นชอบ ร่างพ.ร.ป.ที่ใช้เป็นหลักในการพิจารณาในวาระสอง