"อัจฉริยะ" แจง "ทนายตั้ม" บุกขอดูหลักฐาน ลั่นไม่ให้ศัตรูดูคลิปจริงคดีแตงโม

ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด สำหรับคดีการเสียชีวิตของดาราสาว "แตงโม นิดา" โดยเฉพาะในส่วนของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม อดีตที่ปรึกษากฎหมายคุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม ที่ยืนยันมีหลักฐานเด็ดในคดี ทำให้ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ออกมาประกาศ พร้อมร่วมสู้คดีแตงโมหากนายอัจฉริยะมีคลิปเด็ดจริง

และวันนี้ (23 มิ.ย.) ได้เกิดดราม่าขึ้น เมื่อ ทนายตั้ม บุกไปกลางรายการโหนกระแสที่เชิญนายอัจฉริยะ ไปออกรายการเพื่อขอดูคลิปดังกล่าวโดยไม่แจ้งล่วงหน้า จนภายหลังนายอัจฉริยะถึงกลับเสียความรู้สึกน้ำตาซึมคล้ายถูกรุมยำกลางรายการดัง (อ่านข่าว)

ล่าสุด เมื่อเวลา  20.00 น. นายอัจฉริยะได้เปิดใจผ่านช่องยูทูป โคนัน เมืองไทย ถึงกรณีดังกล่าว โดยยืนยันว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้แจ้งกับหนุ่ม กรรชัย พิธีกรว่า ไม่ให้ทนายตั้มดูคลิปในรายการ แต่ถ้านอกรายการสามารถดูได้ไม่มีปัญหา ซึ่งขณะทำรายการทนายตั้มก็ได้มีการส่งข้อความมาตลอดเวลา กระทั่งจู่ ๆ ก็โผล่มาในรายการ ซึ่งทีแรกตอนที่ทนายตั้มมาถึง ตนตั้งจะถอดไมค์แล้วลงจากเวทีเพื่อให้ทนายตั้มาร่วมรายการกับนายบุญถาวร ปัญญาสิทธิ์ ที่ปรึกษานายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศิวิไลย์แทน 

แต่ตนเห็นว่า หนุ่ม กรรชัย เป็นน้อง หากลุกออกไปจะทำให้รายการเสียหายได้ จึงยอมนั่งต่อเพื่อดูว่าคนพวกนี้จะทำอะไรกับตน ซึ่งระหว่างพูดคุย หนุ่ม กรรชัย ก็แจ้งว่า จ๊อบ นิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร อยากโฟนอิน ตนก็อนุญาตเพราะจ๊อบไม่ค่อยได้ออกมาพูดเกี่ยวกับคดี นอกจากนี้ก็มีสายคนบนเรือมาตลอด ทั้ง แซน วิศาพัช และ ปอ ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ เพื่อขอดูคลิปหลักฐานโดยจะแลกกับการถอนฟ้องตน 

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เรื่องคลิปนี้ ไม่ว่าจะเป็น ทนายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายตั้ม ทนายเดชา ทั้งหมดเป็นคู่สู้ตนขณะนี้ ในการฟ้องร้องคดีกัน อยู่ ๆ จะมาบอกว่า พักการต่อสู้แล้วจะช่วยสู้กับตำรวจแต่ขอดูคลิปก่อนนั้น ตนขอถามว่า ตนกับทนายตั้มที่ผ่านมาต่อสู้ฟ้องร้องกันกว่า 20 คดีมาจนเหลือ 2 คดี จู่ ๆ บอกว่า ถ้าตนให้ดูคลิปจะถอนฟ้องทั้งหมด มันผิดวิสัยหรือไม่ที่ตนจะให้ดู อีกทั้งทีมคณะกฎหมายของตนก็กำชับแล้วว่า ไม่อนุญาตให้เปิดคลิปหลักฐานที่ไหนยกเว้นที่ศาลเท่านั้น

"การใช้รายการโหนกระแสมาเพื่อสร้างปัญหากับตน ตนขออย่าไปตำหนิหนุ่มกรรชัยที่ที่ทำหน้าที่ ส่วนตนมีหน้าชี้แจง แต่ที่ตนเสียความรู้สึกและรับไม่ได้ คือไม่ได้อนุญาตให้ทนายออกรายการ อยากดูคลิปให้ไปดูนอกรายการ การทำแบบนี้ พอตนไม่ได้ดูคลิปของจริง ก็ออกไปสัมภาษณ์กล่าวหาตน แบบนี้ผมถือว่าไม่ถูกต้อง" 
 

นายอัจฉริยะ ย้ำว่า วันนี้ตนไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะอย่างน้อยก็ทำให้คนบนเรือออกมาระแวงกันเอง เป็นการออกอาการชัดเจน ยืนยันตนไม่ให้ดูคลิปของจริงอย่างแน่นอน เพราะเป็นสำนวนข้อที่ 17 ที่ศาลจะไต่สวนมูลฟ้อง ตนทำงานมากว่า 10 ปี การที่จะเอาคลิปหลักฐานมากเปิด ตนก็อาจถูกฟ้องกลั่นแกล้งได้

ตนได้รับรายงานมาว่า มีคำสั่งตั้งธงให้ฟ้องตนในข้อหาต่าง ๆ ให้ เป็นการพยายามยัดข้อหาแบบที่ตนเคยเจอเมื่อสิบปีก่อน ซึ่งหากนับที่ตนจะโดนฟ้องรวม ๆ แล้วประมาณ 84 กรรม โทษรวม ๆ แล้วน่าจะเป็นร้อยปี ยืนยันว่า ตนพร้อมที่จะสู้ทุกคดี ต่อให้โดนอีก 10 - 20  คดี ตนก็ไม่กังวลและย้ำกับทีมงานว่า คดีแตงโม จะโดนฟ้องอีกเท่าไรก็ไม่กลัว พร้อมสู้คดีให้รู้ดำแดงไป แต่วันนี้เสียความรู้สึกพอสมควร แต่ไม่โทษหนุ่มกรรชัย 

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เดิมที่วันนี้ตนจะไปเดินทางภูเก็ต แต่ก็ไม่ไปเพราะคิดว่าคุณแม่ภนิดาจะมาถอนคดี สุดท้ายก็ไม่มา แต่น้อย กมธ.สิทธิฯ ของวุฒิสภา ได้มีการส่งหนังสือด่วนมาถึงตนว่า จะมีการตรวจคราบเลือดบนเรือโดยเชิญฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาหารือและดำเนินการ ซึ่งกรณีนี้ตนเคยยื่นหนังสือถึงอธิบดีอัยการภาค 1 แต่ก็ไม่ได้มีการดำเนินการตาม เมื่อมีหนังสือมาเช่นนี้ ตนจะเชิญ แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ และ พ.อ.นพ. ธวัชชัย กาญจนรินทร์ "อดีตศัลยแพทย์" โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า รวมถึงสื่อมวลชน ไปตรวจคราบเลือดบนเรือสปีดโบ๊ทให้สิ้นสงสัยต่อไป 

ผมยังอยากทำคดีแตงโม เพื่อเอาคนผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ ไม่ปล่อยให้คนรวยพ้นผิดเหมือนคดีบอส วรยุทธ ที่สุดท้ายปรากฎมีทั้งตำรวจและอัยการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลือ