ร้อยเอก สเวียโตสลาฟ พาลามาร์ รองผู้บัญชาการกองพันอาซอฟของยูเครน ที่ปักหลักอยู่ในโรงงานถลุงเหล็ก อาซอฟสตาล ในเมืองมาริอูโปล โพสคลิปเมื่อวันเสาร์ ยืนยันว่า การหยุดยิงของ กองกำลังของยูเครนและรัสเซียในวันเดียวกัน ทำให้สามารถเริ่มอพยพพลเรือนราว 20 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงสูงอายุ เด็ก และสตรีออกจากโรงงานแห่งนี้ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของกองทัพยูเครนในเมืองนี้ แต่การอพยพล่าช้ากว่าที่คาดไว้เมื่อการหยุดยิงล่าช้าออกไปถึง 5 ชม.จากที่คาดว่าจะเริ่มในเวลา 6.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น พวกเขาเป็นกลุ่มแรกที่ได้ออกจากโรงงานแห่งนี้ หลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินสั่งให้ปิดล้อมโรงงานแห่งนี้อย่างแน่นหนาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
พาลามาร์ คาดหวังว่า จะสามารถอพยพพลเรือนออกจากโรงงานแห่งนี้ได้หมด และขอให้รัสเซียเปิดทางให้ทหารบาดเจ็บออกไปด้วย
โรงงานแห่งนี้คาดว่าจะมีพลเรือนอยู่ราว 1,000 คน กับทหารยูเครนและกองพันอาซอฟหลายร้อยนาย และถูกโจมตีโดยกองทัพรัสเซียอย่างหนักหน่วงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยภาพถ่ายดาวเทียม เผยให้เห็นว่า อาคารเกือบทุกหลังภายในบริเวณโรงงานที่มีเนื้อที่กว้างขวางได้รับความเสียหายอย่างมาก
ในวันเดียวกันกองทัพรัสเซียยังคงเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีแนวรบในภาคตะวันออกและภูมิภาคอื่น ๆ ของยูเครนต่อไป โดยมีเสียงระเบิดดังขึ้น 3 ครั้งในเมืองโอเดสซา เมืองท่าทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ และขีปนาวุธของรัสเซียทำลายรันเวย์ของสนามบินได้รับความเสียหายหนักจนไม่สามารถใช้งานได้
และกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เปิดเผยว่า กองทัพทำลายพื้นที่ทางทหารของยูเครน 17 แห่งด้วยขีปนาวุธเมื่อวันเสาร์ และสามารถทำลายศูนย์บัญชาการและคลังแสงที่เก็บจรวดและปืนใหญ่ นอกจากนี้การโจมตีทางอากาศระหว่างวันสามารถสังหารทหารยูเครนกว่า 200 นาย
ขณะที่เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย ย้ำเตือนอีกครั้งให้สหรัฐฯ และองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต หยุดจัดส่งอาวุธให้กับยูเครน หากมีความสนใจอย่างแท้จริงที่จะคลี่คลายวิกฤตในยูเครน
ด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน โพสคลิปเมื่อคืนวันเสาร์โดยบอกว่า ขณะนี้ประเทศกำลังเข้าสู่ช่วงการฟื้นฟูเพื่อนำไปสู่การใช้ชีวิตตามปกติในพื้นที่ที่ไม่มีทหารรัสเซียยึดครองแล้ว โดยระบุว่า ขณะนี้พื้นที่ที่ได้รับปลดปล่อยจากการยึดครองโดยทหารรัสเซีย 69% มีทางการท้องถิ่นเข้าบริหารอย่างเต็มตัวแล้ว และงานบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรมเริ่มขึ้นได้ในพื้นที่ 93% ที่ยึดกลับคืนมาได้
เขาบอกด้วยว่า ในแต่ละวันหลายพื้นที่ได้รับการกำจัดกับระเบิดที่ถูกทหารรัสเซียฝังไว้ และเจ้าหน้าที่กำลังพยายามซ่อมแซมถนน รวมถึงทำให้บริการด้านการแพทย์ การศึกษาและการเงินกลับมาดำเนินงานได้อีกครั้ง รวมทั้งจะซ่อมแซมรันเวย์ของสนามบินในเมืองโอเดสซาที่ถูกทำลายด้วย