ยูเครนระบุว่า มีกองกำลังหลายร้อยนาย และพลเรือนอีกหลายร้อยคน รวมถึงคนหนุ่มสาวและเด็กเล็กอายุเพียง 4 เดือน ที่เข้าไปหลบภัยอยู่ในโรงงานเหล็กกล้าอาซอฟสตาล ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของพวกเขาในเมืองมาริอูโปล ซึ่งกองกำลังรัสเซียได้โจมตีโรงงานแห่งนี้ หลังจากปิดล้อมเมืองมาริอูโปลมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ แม้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียเคยกล่าวว่า รัสเซียไม่มีความจำเป็นต้องบุกโจมตีโรงงานแห่งนี้
นายกเทศมนตรีเมืองมาริอูโปลเปิดเผยว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 600 คนจากเหตุระเบิดของรัสเซียที่โจมตีไปยังสถานพยาบาลชั่วคราวภายในโรงงาน พร้อมประนามว่านี่คือสัญญานของการก่ออาชญากรรมสงคราม
อย่างไรก็ตาม รัสเซียยังคงปฏิเสธข้อหาการโจมตีเป้าหมายที่เป็นพลเรือนในระหว่างการรุกรานที่รัสเซียเรียกว่าเป็นปฏิบัติการทางทหารพิเศษเพื่อปลดอาวุธยูเครนและเอาชนะกลุ่มนีโอนาซี
ขณะที่สภาเมืองมาริอูโปลกล่าวว่า มีชาวเมืองประมาณ 100,000 คน "ตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต" จากการโจมตีของรัสเซียและสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะการขาดแคลนน้ำดื่มและอาหารถือเป็น "หายนะ" ที่ชาวเมืองต้องเผชิญในตอนนี้