อาคารหลายร้อยหลังในนครเซี่ยงไฮ้ได้ถูกดัดแปลงเป็นศูนย์พักโรคชั่วคราว ในขณะที่ทางการกำลังดิ้นรนกับการควบคุมอัตราการติดเชื้อรายวันที่พุ่งทะลุ 25,000 ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีหลายคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย ที่แสดงให้เห็นตำรวจกดตัวผู้ประท้วงที่อาละวาดลงกับพื้น ซึ่งเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้เกิดขึ้นทั้งในเซี่ยงไฮ้และเมืองไห่หนิง ที่อยู่ห่างไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 125 กิโลเมตร
ชาวเซี่ยงไฮ้ที่ตกอยู่ในสภาพถูกล็อกดาวน์แบบ 100% ตั้งแต่ต้นเดือน ได้ระบายความโกรธแค้นอย่างท่วมท้นในโซเชียลมีเดีย ทั้งเรื่องขาดแคลนอาหาร และการใช้อำนาจที่เกินขอบเขตของเจ้าหน้าที่ ที่บังคับให้พวกเขากักตัวภายใต้การดำเนินการที่ไร้ประสิทธิภาพ การแสดงออกถึงความไม่พอใจ ได้รวมถึงการพยายามฝ่าแนวกั้นของแบร์ริเออร์ออกไปเอาอาหาร
เซี่ยงไฮ้เริ่มล็อกดาวน์เป็นบางส่วนเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ก่อนจะล็อกดาวน์เต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 3 เมษายน หลังจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งไม่หยุด ท่ามกลางความไม่พอใจของชาวเมืองที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และเริ่มหมดความอดทนเมื่อเกิดการขาดแคลนอาหาร คลิปวิดีโอที่เผยแพร่ยังแสดงให้เห็น ชาวเมืองออกมาตะโกนต่อว่าตำรวจที่ถือโล่ห์อยู่ด้านนอกที่พักอาศัย และคลิปการจับกุมผู้ประท้วงที่มีการใช้ความรุนแรงด้วย
นอกจากเรื่องอาหารแล้วชนวนเหตุแห่งความไม่พอใจ เกิดขึ้นหลังทางการสั่งให้ 39 ครอบครัว ย้ายออกจากที่พักอาศัยในอะพาร์ตเมนต์ เพื่อ "ตอบสนองความต้องการในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด" โดยเอาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสเข้าไปอยู่แทน ซึ่งทางการอ้างว่าได้จ่ายชดเชยให้แก่ผู้เช่าที่ย้ายออก และให้พวกเขาไปอยู่ในยูนิตอื่น ๆ ที่อยู่ในอาณาบริเวณเดียวกัน
ยังมีคลิปวิดีโอที่เป็นไวรัลที่แสดงให้เห็นโดรนบินเข้าไปในพื้นที่อยู่อาศัย และส่งข้อความกระจายเสียงเรียกร้องให้ประชาชน ควบคุมความปรารถนาของจิตวิญญาณของคุณเพื่อเสรีภาพ