ด้านท่าทีของทำเนียบขาวขอจับตาดูรัสเซียก่อนว่าการบุกเข้าไปในยูเครนจะเรียกว่าเป็นการบุกรุกหรือเปล่า โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวคนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าขณะนี้รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณากันอย่างรอบคอบว่าการส่งทหารรักษาสันติภาพของรัสเซียเข้าไปในพื้นที่ทางภาคตะวันออกของยูเครน จะถือว่าเป็นการบุกรุกยูเครนหรือเปล่าเนื่องจากว่าพื้นที่ดังกล่าวก็ได้ประกาศแยกตัวออกจากยูเครนมานานแล้ว และรัสเซียก็มีการส่งทหารเข้าไปในยูเครนตะวันออกอย่างลับๆ ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ทำให้การที่รัสเซียส่งทหารรักษาสันติภาพเข้าไปในดอนบาส ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร ซึ่งตราบใดที่รัสเซียยังไม่ส่งรถถังเข้าไปในโดเนตสค์ และลูฮันสค์ การเจรจาหาทางออกก็ยังเป็นไปได้อยู่ และสหรัฐฯ จะขอรอและดูท่าทีของรัสเซียต่อจากนี้ก่อนว่าจะเป็นทำอะไรต่อไป
จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีข้อมูลว่ารัสเซียจะส่งกำลังทหารรักษาสันติภาพเข้ามาในโดเนตสค์และลูฮันสค์จำนวนเท่าไร รวมทั้งการส่งมาปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพที่รัสเซียกล่าวอ้างจะเข้ามาทำอะไรบ้าง
อย่างไรก็ตาม โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี ห้ามชาวอเมริกันทำการค้า ทำธุรกรรมทางการเงิน และลงทุนในโดเนตสค์และลูฮันสค์แล้ว นอกจากนี้ สหรัฐฯ จะทำการคว่ำบาตรบุคคลที่ยังคงฝ่าฝืนทำธุรกิจในภูมิภาคดอนบาสของยูเครน
เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยว่าสหรัฐฯ จะเตรียมมาตรการตอบโต้รัสเซียมากขึ้น ซึ่งนอกจากคำสั่งประธานาธิบดีที่เพิ่งออกมา ยังจะมีมาตรการตอบโต้รุนแรงอื่นๆ ที่สหรัฐฯ จะร่วมมือกับชาติพันธมิตรใช้ตอบโต้รัสเซียอย่างเด็ดขาด หากรัสเซียทำการบุกรุกยูเครนมากกว่านี้ ซึ่งในวันนี้ ไบเดน และเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับ โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี นานกว่า 35 นาที และก็ได้โทรศัพท์พูดคุยกับ เอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และ โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมัน เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น