ภูมิภาคดอนบาสอยู่ในกำมือปูติน หนทางเจรจาริบหรี่

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ออกคำสั่งให้ทหารเข้าไปปฏิบัติภารกิจ "รักษาสันติภาพ" ในดินแดนของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์-ลูฮันสค์ ในภูมิภาคดอนบาส ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หลังลงนามในกฤษฎีกา รับรองเอกราชของทั้งสองรัฐอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางเสียงประนามจากชาติตะวันตกที่ว่า รัสเซียละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ฉีกข้อตกลงมินสค์ (Minsk Accords) ที่ถูกจัดทำขึ้นอย่างเร่งรีบที่เมืองหลวงของเบลารุส เพื่อหวังยุติการสู้รบนองเลือดระหว่างรัฐบาลยูเครนกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดน

การเดินหมากของปูตินในครั้งนี้ เป็นการเปิดทางให้รัสเซียส่งทหารเข้าไปสองดินแดน โดยอ้างพื้นฐานของการป้องกันสองรัฐอิสระจากการคุกคามของยูเครน และยังถือสิทธิ์ ในการเข้าไปสร้างฐานทัพ ภายใต้สนธิสัญญาที่ลงนามระหว่างปูตินกับผู้นำของทั้ง 2 รัฐ ซึ่งตามนิตินัย ทั้งสองรัฐก็ทำแบบเดียวกันในรัสเซียได้ 

ภายใต้ข้อตกลง 31 ข้อ ทั้งสองฝ่ายได้ยอมรับเรื่องที่การปกป้องซึ่งกันและกัน ทั้งความร่วมมือทางทหาร การยอมรับเขตแนวพรมแดนของกันและกัน รวมถึงการทำงานเพื่อบูรณาการเศรษฐกิจ เพราะทั้งสองรัฐเคยเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมที่ต้องการการสนับสนุนอย่างมากในการฟื้นฟู หลังจากตกอยู่ท่ามกลางไฟสงครามมานานถึง 8 ปี

การส่งทหารเข้าไปในภูมิภาคดอนบาส สอดคล้องกับที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลรัสเซียแสดง "หลักฐาน" ว่า ชาวรัสเซียในดินแดนแห่งนี้ ก็เสี่ยงที่จะถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และจำเป็นต้องได้รับการคุ้มครอง ซึ่งปูตินได้ออกคำสั่งให้กระทรวงกลาโหม ส่งทหารรัสเซียเข้าไปในโดเนตสค์และลูฮันสค์ เพื่อปกป้องพวกเขา

ตอนนี้ ดูเหมือนช่องทางทางการทูตเพื่อหลีกเลี่ยงสงคราม กำลังแคบลงทุกที การไม่ยอมรับการหยุดยิงอายุ 7 ปี ที่ฝรั่งเศสกับเยอรมนีเป็นผู้ไกล่เกลี่ย ทำให้ยากที่จะสร้างกรอบการทำงานเพื่อการเจรจาในอนาคต