รัฐสภาอินโดนีเซียลงมติเมื่อวันอังคารผ่านกฎหมายเมืองหลวงใหม่ ที่เป็นกรอบกฎหมายจัดหาเงินทุนและการบริหารสำหรับโครงการใหญ่มูลค่า 32,000 ล้านดอลลาร์ในการย้ายเมืองหลวงจากกรุงจาการ์ตาไปยังจังหวัดกาลีมันตันตะวันออกบนเกาะบอร์เนียว ที่อยู่ห่างออกไปราว 2,000 กม. นับเป็นความคืบหน้าที่สุดของแผนย้ายเมืองหลวง ที่เป็นแนวคิดของผู้นำอินโดนีเซียหลายคนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ซูฮาร์โซ โมโนอาร์ฟา รัฐมนตรีวางแผนการพัฒนาแห่งชาติ แจ้งต่อรัฐสภาหลังทราบผลการลงมติว่า เมืองหลวงใหม่จะเป็นศูนย์กลางการปฏิบัติงาน สัญลักษณ์สะท้อนอัตลักษณ์ของชาติ และศูนย์กลางใหม่ของเศรษฐกิจ
นอกจากนี้กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า แผนการย้ายเมืองหลวงจะดำเนินการระหว่างปี 2565-2567 โดยจะเริ่มจากการเชื่อมโยงถนนและท่าเรือเข้าสู่เมืองใหม่เป็นอันดับแรก โดยบางโครงการจะเป็นการลงทุนร่วมระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน
ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด เริ่มประกาศแผนย้ายหน่วยงานรัฐบาลออกจากกรุงจาการ์ตาตั้งแต่ปี 2562 หลังจากเมืองใหญ่ที่มีประชากรมากถึง 10 ล้านคนประสบปัญหาการจราจรติดขัด น้ำท่วม และมลพิษทางอากาศมาอย่างยาวนาน แต่ความคืบหน้าของโครงการล่าช้าออกไปเพราะการระบาดของโควิด-19
เมื่อวันจันทร์รัฐมนตรีวางแผนการพัฒนาแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมืองหลวงแห่งใหม่จะมีชื่อว่า “นูซันตารา” ( Nusantara ) เป็นภาษาชวาโบราณ หมายถึง “หมู่เกาะ”
โมโนอาร์ฟา ยืนยันว่า ประธานาธิบดีวิโดโด อนุมัติการใช้ชื่อนี้ โดยให้เหตุว่า "นูซันตารา" เป็นคำที่คุ้นหูชาวอินโดนีเซียมานาน และบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของอินโดนีเซียได้เป็นอย่างดี
รัฐบาล ระบุว่า ที่ตั้งของเมืองหลวงใหม่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับระบบห่วงโซ่อุปทานของอินโดนีเซีย และทำให้อินโดนีเซียอยู่ในตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ ที่สำคัญในเส้นทางการค้า การไหลเข้าของเงินลงทุน และนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีของโลกมากขึ้น
แต่มีเสียงท้วงติงจากนักวิจารณ์ว่า กฎหมายย้ายเมืองหลวงฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบโดยมีการปรึกษากับประชาชน และการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไม่เพียงพอ