สหภาพครูของฝรั่งเศส คาดว่า โรงเรียนประถมกว่าครึ่งหนึ่งอาจต้องปิดเรียนในวันนี้ และครูมากถึงเกือบ 75% จะเข้าร่วมการหยุดงานประท้วง หรือ สไตรก์ นาน 1 วัน
ครู ผู้ปกครอง และผู้บริหารโรงเรียน กำลังประสบความยากลำบากกับข้อบังคับใหม่ของรัฐบาลเรื่องการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับเด็กนักเรียนและการแยกกักตัว ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปมานับจากช่วงก่อนวันหยุดยาวเทศกาลคริสต์มาส และเพียงไม่ถึง 2 สัปดาห์หลังกลับมาเปิดเรียน ครูก็เผชิญแรงกดดันอย่างมากจากจำนวนผู้ติดโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น
อลิซาเบธ อัลเลน-โมเรโน เลขาธิการของสหภาพครู SE-UNSA บอกว่า เรามาถึงระดับความโกรธแค้น และความเหนื่อยล้า ที่เราไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจัดการสไตรก์เพื่อส่งสารที่หนักแน่นถึงรัฐบาล
ครูต้องการประท้วงต่อนโยบายการปิดห้องเรียนทันทีที่พบผู้ติดเชื้อ และข้อกำหนดแยกกักตัวผู้เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง ที่ทำให้ไม่สามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างปกติ ในเมื่อมีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น และต้องการให้รัฐบาลจัดหาอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อให้กับบุคลากรในโรงเรียนมากขึ้น เช่น หน้ากาก ชุดตรวจโควิด อุปกรณ์ตรวจวัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อดูว่าห้องเรียนมีระบบระบายอากาศดีพอหรือไม่
จนถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา พบว่า มีห้องเรียน 10,533 ห้องทั่วประเทศต้องปิดเรียน คิดเป็นเกือบ 2% ของโรงเรียนประถมทั้งหมด
รัฐบาลเพิ่งเปลี่ยนแปลงนโยบาย ที่เดิมสั่งปิดห้องเรียนทันทีที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยยืนยันว่า จะสนับสนุนให้โรงเรียนเปิดการเรียนการสอนในห้องเรียนให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
ฝรั่งเศสกำลังเผชิญการระบาดของโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วสืบเนื่องจากสายพันธุ์โอมิครอน โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันใกล้แตะ 370,000 คนในช่วงหลายวันมานี้ และจากข้อมูลของกระทรวงการศึกษา พบว่า มีนักเรียนติดโควิด-19 ราว 50,000 คน ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีกในหลายสัปดาห์ข้างหน้า