บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน หรือ J&J ออกแถลงการณ์เปิดเผยผลการศึกษาทั้งสองฉบับเมื่อวันพฤหัสบดีว่า คนที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แบบเข็มเดียว ที่พัฒนาโดยบริษัท แจนส์เซน ฟาร์มาซูติคัลในเครือของ J&J และได้รับการฉีดเป็นวัคซีนเข็ม 2 หรือวัคซีนเข็มกระตุ้น จะสามารถป้องกันอาการป่วยรุนแรงจากไวรัสโคโรนากลายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอนได้
ผลการศึกษาจากบุคลากรการแพทย์ราว 69,000 คนในแอฟริกาใต้ พบว่า วัคซีนที่มีชื่อว่า Ad26.COV.2 ของ J&J ที่ฉีดเป็นเข็ม 2 หรือเข็มกระตุ้นสามารถลดอัตราการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลได้สูงขึ้นจาก 63% เป็น 85% หลังการฉีดแล้ว 1-2 เดือน โดยคนเหล่านี้ได้รับการฉีดห่างจากวัคซีน J&J เข็มแรก 6-9 เดือน
ส่วนผลการศึกษาอีกฉบับในสหรัฐฯ พบว่า อาสาสมัคร 65 คนที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นจากวัคซีน J&J ร่างกายจะสร้างเซลล์ภูมิต้านทาน ที-เซลล์ ในระดับสูง ซึ่งจะช่วยป้องกันอาการป่วยรุนแรงจากเชื้อไวรัสได้ แม้ว่าไม่สามารถยับยั้งไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายได้ทั้งหมด
ดร. มาไท แมมเมน หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาของแจนส์เซน บอกว่า ผลการศึกษาดังกล่าวบ่งชี้ว่า สายพันธุ์โอมิครอนไม่กระทบต่อเซลล์ภูมิต้านทาน ที-เซลล์ ที่เกิดขึ้นจากวัคซีน J&J
ผลการศึกษาทั้งสองฉบับเป็นรายงานประสิทธิภาพของวัคซีนเข็มกระตุ้นของ J&J เป็นครั้งแรกในช่วงที่โอมิครอนกำลังแพร่ระบาด แต่ผลการศึกษาทั้งสองฉบับยังไม่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารทางวิทยาศาสตร์ที่มีการตรวจทานจากผู้เชี่ยวชาญ
สำนักงานอาหารและยากของสหรัฐฯอนุมัติเมื่อเดือนต.ค.ให้สามารถใช้วัคซีนของ J&J เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยผู้ที่ฉีดวัคซีน J&J แล้วอย่างน้อย 2 เดือนสามารถเข้ารับวัคซีนอีกเข็มเป็นเข็มกระตุ้นได้