วันนี้ (11 ธ.ค.) ที่บริเวณหน้าองค์การสหประชาชาติ “เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น” ร่วมแถลงข่าวทิศทางการเคลื่อนไหวคัดค้านโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ โดย นายสมบูรณ์ คำแหง แกนนำนักปกป้องทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม จ.สตูล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีพี่น้องจะนะถูกจับกุมและถูกแจ้งความดำเนินคดี ฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และช่วงเช้าแจ้งเพิ่มอีก 2 ข้อหา ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก และขัดขวางการจับกุม รวมทั้งมีเงื่อนไขการปล่อยตัวห้ามกลับมาชุมนุมอีก ถือเป็นการใช้กฎหมายปิดปากประชาชน ขณะที่เรากำลังพูดถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน มาทวงสัญญาจากรัฐบาล นี่จึงเป็นสาเหตุที่เรามาปักหลักอยู่หน้ายูเอ็น เพราะไม่อยากสร้างเงื่อนไขให้ตำรวจมาจับกุมพี่น้องจะนะเป็นรอบที่ 2
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า อีกสาเหตุที่มาอยู่หน้ายูเอ็น เพราะต้องการใช้พื้นที่ตรงนี้จัดเวทีทุกเย็น นำเรื่องราวความเดือดร้อนของคนจะนะมาสื่อสารทุกๆ วัน ขณะเดียวกันเพื่อปักหลักรอพี่น้องเครือข่ายที่กำลังตามขึ้นมาจากภาคใต้อีก 100 กว่าชีวิต และคาดว่าจะมีผู้มาสมทบประมาณ 300-500 คน โดยวันที่ 13 ธ.ค. นี้ เราจะเก็บข้าวของ เดินไปที่ประตู 1 ทำเนียบรัฐบาล จนกว่าจะได้คำตอบ แต่หากเจ้าหน้าหน้าที่ดักระหว่างทางตรงไหน ก็จะหยุดตรงนั้น และเพื่อป้องกันการถูกกระทำจากเจ้าหน้าที่รัฐ ทางกลุ่มฯจะทำหนังสือเชิญยูเอ็น , กสม. , กรรมาธิการฯ ส.ส.ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน มาร่วมเป็นผู้สังเกตการณ์ด้วย
ทางกลุ่มขอย้ำ 4 ข้อเรียกร้อง คือ 1.รัฐบาลต้องตรวจสอบศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อีกครั้ง 2.รัฐบาลจะจัดให้มีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างครบถ้วน เพื่อให้มีข้อมูลทางวิชาการที่ถูกต้องประกอบการตัดสินใจเดินหน้าหรือยุติโครงการต่อไป 3.รัฐบาลต้องยุติการดำเนินการทั้งหมดไว้ก่อนจนกว่าจะดำเนินการตามข้อ 1 และ 2 แล้วเสร็จ และ4.รัฐบาลต้องยุติการดำเนินคดีกับเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นทั้ง 37 คน ที่เกิดจากการสลายการชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล
“เราต้องการหาทางออกความขัดแย้งด้วยกระบวนการ แนวทางการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ หรือ SEA เราไม่เคยยืนกระต่ายขาเดียวว่าโครงการนี้ต้องหยุด แต่เราเสนอว่าจะทำต่อหรือยกเลิก เอาเหตุผลทางวิชาการมาเป็นตัวตัดสินได้หรือไม่ ใช้นักวิชาการที่มีความชำนาญแต่ละเรื่อง และมี 3 ด้านที่ควรศึกษา คือด้านสิ่งแวดล้อม,สังคมวัฒนธรรม, และเศรษฐศาสตร์ จากนั้นเอาข้อเท็จจริงมาประกอบการตัดสินใจให้กับชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ สิ่งที่เราอยากได้วันนี้ไม่ใช่เอ็มโอยู อีกต่อไป
เราได้ทำร่างกระบวนการ SEA ไว้ให้ท่านแล้ว ร่างนี้ถูกรับรองจากนักวิชาการในมหาวิทยาลัยที่ จ.สงขลา หากมีการตกลงในขั้นหลักการ นายกรัฐมนตรีสามารถเซ็นแต่งตั้งคำสั่งนี้ พวกผมกลับบ้านเลย แต่ถ้าไม่เซ็น ไม่มีกำหนดกลับ จะนั่งอยู่จนกว่าจะได้สิ่งที่ต้องการ” นายสมบูรณ์ กล่าว
ด้าน น.ส.ไครียะห์ ระหมันยะ เยาวชนนักเคลื่อนไหวเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น หรือ ลูกสาวแห่งทะเลจะนะ กล่าวว่า จากการกระทำของรัฐบาลเป็นปรากฎการณ์ว่า รัฐบาลชุดนี้ทำสัญญากับใครมั่วๆ และถ้าใครมาทวงสัญญาก็สลายการชุมนุมแบบนี้ แต่จำเอาไว้ว่า”จะนะ” จะเป็นบทเรียนให้กับคุณว่า คุณไม่สามารถทำแบบนี้กับใครได้อีก ฉะนั้นขอเชิญชวนคนที่ได้รับผลกระทบจากที่รัฐบาลชุดนี้ไปทำเอ็มโอยูด้วย ให้ออกมาเดินเคียงข้างกันที่หน้าทำเนียบรัฐบาล วันที่ 13 ธ.ค. นี้ เวลาประมาณ 13.00 น.