svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

สลด! รถเทรลเลอร์ขนผู้อพยพคว่ำดับ 53 รายในเม็กซิโก

10 ธันวาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เกิดเหตุสลดรถเทรลเลอร์แออัดด้วยผู้อพยพกว่า 100 คนพลิกคว่ำไปพุ่งชนกับสะพานลอยบนทางหลวงสายหนึ่งในเม็กซิโกเมื่อวาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 53 รายและผู้บาดเจ็บอีก 54 คน

อุบัติเหตุเกิดขึ้นบนทางหลวงมุ่งหน้าสู่เมืองทักซต์ลา กูเตียร์เรซ รัฐชิอาปาสทางภาคใต้ของเม็กซิโก โดยรถเทรลเลอร์ที่บรรทุกผู้อพยพกว่า 100 คนประสบเหตุขณะเข้าโค้งหักศอก ทำให้พลิกคว่ำและเหวี่ยงไปชนกับเสาสะพานลอยคนข้ามจนพลิกตะแคง ผู้โดยสารหลายคนตกลงจากรถกระจัดกระจายบนพื้นถนน และบางส่วนติดอยู่บนรถ ร่างผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บถูกอัดทับกันภายในคอนเทนเนอร์บนรถเทรลเลอร์ และบางคนพยายามตะเกียกตะกายหนีออกมาอย่างยากลำบาก

 

สื่อเผยแแพร่ภาพน่าสลดใจที่มีศพห่อด้วยผ้าขาวเรียงรายอยู่ข้างถนน และผู้รอดชีวิตร้องไห้ด้วยความตกใจ

 

เจ้าหน้าที่ระบุว่า ผู้เคราะห์ร้ายเป็นผู้อพยพมาจากหลายประเทศในอเมริกากลาง ซึ่งยังไม่มีการยืนยันสัญชาติ

 

 

 

สลด! รถเทรลเลอร์ขนผู้อพยพคว่ำดับ 53 รายในเม็กซิโก

 

ผู้รอดชีวิตคนหนึ่ง เล่าว่า รถเทรลเลอร์ขับเร็ว และดูเหมือนจะเสียหลักด้วยจำนวนผู้อพยพที่อาจบรรทุกเกินน้ำหนัก และบอกด้วยว่า ผู้อพยพบางคนมาจากกัวเตมาลาและฮอนดูรัส มีเด็กรวมอยู่ด้วย 8-10 คน  ตัวเขาต้องการมุ่งหน้าไปสหรัฐฯ แต่ตอนนี้คาดว่าจะถูกเนรเทศกลับกัวเตมาลา

 

หน่วยดับเพลิง เปิดเผยว่า รถพยาบาลเร่งนำส่งผู้บาดเจ็บคันละ 3-4 คนไปยังโรงพยาบาล 3 แห่ง และเนื่องจากรถพยาบาลไม่พอ จึงต้องใช้รถกระบะลำเลียงผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาลด้วย

 

 

 

 

สลด! รถเทรลเลอร์ขนผู้อพยพคว่ำดับ 53 รายในเม็กซิโก

 

อุบัติเหตุครั้งนี้เป็นหนึ่งในครั้งรุนแรงที่สุดที่เกิดจากผู้อพยพพยายามเสี่ยงชีวิตเพื่อลักลอบเข้าเมืองไปยังสหรัฐฯ ที่ผ่านมาผู้อพยพจะหนีความยากจนและความรุนแรงในประเทศ โดยเดินเท้าผ่านชายแดนเม็กซิโกเพื่อลอบข้ามไปยังสหรัฐฯ และบางครั้งก็เดินทางด้วยรถบรรทุกขนาดใหญ่ในสภาพแออัด ที่ดำเนินการโดยแก๊งลักลอบนำผู้อพยพเข้าเมือง เมื่อเดือนที่แล้วเจ้าหน้าที่เม็กซิโกสามารถตรวจจับรถเทรลเลอร์สองคันที่บรรทุกผู้อพยพรวมเกือบ 600 คน

 

ประธานาธิบดีของเม็กซิโกและกัวเตมาลาแสดงความเสียใจกับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นล่าสุด และรัฐบาลเอลซัลวาดอร์กำลังตรวจสอบว่ามีพลเมืองเสียชีวิตหรือบาดเจ็บในอุบัติเหตุครั้งนี้ด้วยหรือไม่

 

 

 

logoline