svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

หมอดังร้องแบนศัลยแพทย์จีนพัวพันค้าอวัยวะ

25 ตุลาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศัลยแพทย์ชื่อดังชาวออสเตรเลียที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วโลก เรียกร้องให้โรงพยาบาลตะวันตกทุกแห่งแบนศัลยแพทย์ชาวจีน หลังมีรายงานว่ามีหลายคนกลับไปจีนและเข้าสู่ "ตลาดค้าอวัยวะ" เหมือนกับฉากในซีรีส์ "Squid Game"

หลังจากซีรีส์ดัง "Squid Game" ที่ฉายทาง Netflix และจุดกระแสความคลั่งไคล้ไปทั่วโลก มีฉากที่แสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่ชุดชมพูแอบ "ค้าอวัยวะ" ของผู้เข้าแข่งขันที่เสียชีวิต ล่าสุด ศาสตราจารย์รัสเซลล์ สตรอง ศัลยแพทย์ชาวออสเตรเลีย ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ได้แสดงความวิตกว่า "การลักลอบค้าอวัยวะ" ไม่ได้มีแค่ในซีรีส์ และจีนก็เป็นประเทศที่เก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการค้าอวัยวะมนุษย์มาอย่างต่อเนื่อง มีนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ต่อต้านรัฐบาลราว 60,000 ถึง 100,000 คน ถูกประหารชีวิตทุกปี เพื่อนำอวัยวะไปขายในตลาดมืด 

ศาสตราจารย์สตรอง วัย 84 ปี เป็นคนแรกที่ออกมาเตือนเรื่องจีนละเมิดสิทธิมนุษยชนตั้งแต่ทศวรรษที่ 1980 หลังริเริ่มทำโครงการปลูกถ่ายอวัยวะที่โรงพยาบาล "Princess Alexandra Hospital" ที่บริสเบน ของออสเตรเลีย ก่อนประสบความสำเร็จในการปลูกถ่ายตับครั้งแรกของออสเตรเลียในปี 2528 ทำให้ได้รับการร้องขอมาฝึกงานจากแพทย์ชาวจีนจำนวนมาก แต่การที่มีรายงานว่ามีการนำอวัยะของนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและนักโทษไปขายในตลาดมืด ทำให้เขาปฏิเสธคำขอจากแพทย์เหล่านี้ เว้นแต่ว่าจะได้รับเอกสารลงนามรับรองจากสถาบันของพวกเขาว่า จะไม่กลับไปร่วมโครงการประหารนักโทษเพื่อเอา "อวัยวะบริจาค" 

ศาตราจารย์สตรอง บอกด้วยว่า แพทย์ฝึกหัดชาวจีนนำความรู้จากมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลในประเทศตะวันตก ไปใช้ในโครงการลับ "ฆ่า-ตาม-สั่ง" ที่นำหัวใจ ไต ตับและกระจกตา ของนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลและนักโทษไปขายตลาดมืดทุกปี แต่ประชาคมนานาชาติยังไม่มีอำนาจยับยั้งการกระทำเหล่านี้ได้ ด้าน สหประชาชาติระบุว่าเป้าหมายการค้าอวัยวะ คือ "ชนกลุ่มน้อย" ที่รวมทั้งกลุ่มลัทธิฟาหลุนกง ชาวมุสลิมอุยกูร์ ชาวทิเบต และชาวคริสต์ ซึ่งอุตสาหกรรมอันน่าสะพรึงกลัวนี้ทำรายได้มูลค่าปีละประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ และแม้มีหลักฐานกองเป็นภูเขา แต่ จีนยังคงปฏิเสธและตอบโต้ว่าเป็นหลักฐานเท็จและทำลายชื่อเสียง

logoline