เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือ แสดงความเห็นเกี่ยวกับข้อตกลงหุ้นส่วนด้านความมั่นคงภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก หรือ (Aukus) ที่สหรัฐ อังกฤษและออสเตรเลียร่วมกันประกาศเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้วว่าเป็นข้อตกลงที่อันตรายและไม่พึงปรารถนาอย่างร้ายแรง ที่จะทำลายดุลยภาพทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และจุดชนวนให้เกิดห่วงโซ่ของการแข่งขันสะสมอาวุธนิวเคลียร์
ตามข้อตกลงสหรัฐฯจะแบ่งปันเทคโนโลยีสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ 8 ลำให้กับออสเตรเลีย รวมทั้งยังครอบคลุมถึงขีปนาวุธร่อน ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีอื่นๆ ข้อตกลงนี้ถูกมองว่ามุ่งคานอิทธิพลจีนในทะเลจีนใต้
กระทรวงต่างประเทศจีนแถลงโจมตีข้อตกลงฉบับนี้ทันทีว่าเสี่ยงทำลายสันติภาพในภูมิภาคอย่างร้ายแรง และทำให้การแข่งขันสะสมอาวุธทวีความเข้มข้นยิ่งขึ้น
เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ กล่าวอีกว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง จีนออกมาประณามการกระทำของ 3 ชาติว่าเป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบและบั่นทอนสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค
นอกจากนี้เกาหลีเหนือยังแสดงความเห็นว่า ข้อตกลง Aukus จะทำให้เกิดวิกฤตความขัดแย้งระหว่างชาติพันธมิตรตะวันตกด้วยกัน หลังจาก ฌอง--อีฟว์ เลอ ดริยง รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสบอกว่า ข้อตกลงฉบับนี้เปรียบเหมือนการแทงข้างหลัง โดยไม่มีการปรึกษากับฝรั่งเศส และทำให้ฝรั่งเศสสูญเสียข้อตกลงสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ 12 ลำให้กับออสเตรเลียมูลค่า 37,000 ล้านดอลลาร์ที่ทำไว้เมื่อปี 2559 รวมทั้งเป็นพฤติกรรมที่ไม่อาจยอมรับได้ระหว่างชาติพันธมิตรและหุ้นส่วน
ประธานาธิบดีเอ็มมานูแอล มาครง สั่งเรียกเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐฯ และเอกอัครราชทูตประจำออสเตรเลีย เดินทางกลับกรุงปารีสด่วนเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดขณะนี้ และล่าสุดรัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศสยกเลิกการพบปะกับรัฐมนตรีกลาโหมของอังกฤษในสัปดาห์นี้แล้ว โดยให้เลื่อนออกไปก่อน