svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ปัญจชีร์ หนึ่งเดียวที่ยืนหยัดสู้ตาลีบันมา 2 ทศวรรษ

24 สิงหาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

แต่ปัจจุบันกำลังเจองานหนัก เมื่อตาลีบันส่งกองกำลังจำนวนมากเข้าปิดล้อม เพื่อปิดฉากการต่อต้าน ที่หากทำสำเร็จ พวกเขาก็จะไม่มีขวากหนามมาเป็นอุปสรรคต่อการปกครองอัฟกานิสถาน

ขณะที่กลุ่มตาลีบันยึดครองอัฟกานิสถานอย่างแน่นหนา ก็ยังมีพื้นที่ห่างไกลแห่งหนึ่งซึ่งการต่อต้านกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้มานานหลายทศวรรษแล้ว แต่ปัจจุบัน พื้นที่แห่งนี้ อยู่ภายใต้การคุกคามครั้งใหญ่ของกลุ่มตาลีบันอีกครั้ง

 

ตาลีบันเสริมกำลังเข้าไปทั้งในและรอบ ๆ จังหวัดปัญจชีร์ ซึ่งเป็นจังหวัดเดียวที่ยังไม่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา เมื่อวันจันทร์ ตาลีบันบอกว่าได้ยึดพื้นที่ 3 เขตในหุบเขาปัญจชีร์ได้แล้ว

 

หุบเขาปัญจชีร์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงคาบูลไปทางเหนือราว 150 กิโลเมตร เป็นศูนย์กลางของสงครามกองโจรอัฟกานิสถาน

 

หุบเขาแห่งนี้ทนทานต่อการยึดครองของต่างชาติมาช้านานแล้ว กองทัพของจักรวรรดิอังกฤษ ไม่สามารถบุกเข้าไปในภูมิภาคนี้ได้ในระหว่างที่พยายามยึดอัฟกานิสถานในศตวรรษที่ 19

 

ในช่วงทศวรรษที่ 1980 ภายใต้การนำของอัคหมัด ชาห์ มาซูด พวกนักรบปกป้องหุบเขาจากทหารโซเวียต แม้ว่าสหภาพโซเวียตจะควบคุมกรุงคาบูล และพื้นที่ขนาดใหญ่อื่น ๆ ของประเทศได้แล้ว

 

ภูมิประเทศของหุบเขาปัญจชีร์ มีบทบาทสำคัญในความสำเร็จของการป้องกัน  ด้วยการซ่อนตัวอยู่ในเทือกเขาฮินดูกูช และเข้าถึงได้เฉพาะจากถนนในช่องเขาแคบ ๆ เท่านั้น กองกำลังท้องถิ่นได้ใช้ประโยชน์จากความทุรกันดารของที่นี่ เป็นข้อได้เปรียบเหนือผู้บุกรุก

 

ก่อนที่ตาลีบันจะเข้ายึดครองอัฟกานิสถาน บรรดาแกนนำของจังหวัดปัญจชีร์ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลอัฟกานิสถานในกรุงคาบูล มอบอำนาจการปกครองตนเองให้พวกเขามากขึ้น เพราะประชากรส่วนใหญ่ของหุบเขา เป็นชนกลุ่มน้อยชาวทาจิก ในขณะที่กลุ่มตาลีบันส่วนใหญ่เป็นชาวพัชตุน

 

หลังจากที่โซเวียตถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานในปี 2532 กลุ่มต่าง ๆ ของพวกมูจาฮีดีน หรือ " นักรบศักดิ์สิทธิ์ของอิสลาม " ได้แตกแยกออกเป็นกลุ่ม ๆ เพื่อต่อสู้กับรัฐบาลหุ่นเชิดโซเวียต เพื่อการควบคุมประเทศ

จากความโกลาหลนี้  มาซูด ได้ก่อตั้งกลุ่ม Northern Alliance หรือ พันธมิตรทางเหนือ ซึ่งเป็นพันธมิตรของนักรบชาวอุซเบกและทาจิก กองกำลังของเขายึดครองกรุงคาบูลอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน

ในที่สุด ส่วนใหญ่ของประเทศก็ตกอยู่กำมือของกลุ่มตาลีบันในปี 2539 แต่กลุ่มพันธมิตรทางเหนือภายใต้การนำของมาซูด ก็พยายามรักษาหุบเขาปันจชีร์ให้พ้นจากการยึดครองของตาลีบันได้ตลอดการปกครอง 5 ปีของตาลีบัน
ปัญจชีร์ หนึ่งเดียวที่ยืนหยัดสู้ตาลีบันมา 2 ทศวรรษ

มาซูด ที่เป็นที่รู้จักในนาม "สิงโตแห่งปัญจชีร์" เป็นผู้นำการโจมตีต่อต้านกลุ่มตาลีบันจนกระทั่งเขาถูกลอบสังหารโดยหน่วยปฏิบัติการของอัลไกด้า 2 วันก่อนการโจมตีสหรัฐครั้งใหญ่เมื่อ 11 กันยายน 2544  ปีเตอร์ เบอร์เจน นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงแห่งชาติของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นเรียกเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “ การเปิดม่านสำหรับการโจมตีนครนิวยอร์กและวอชิงตัน ดี.ซี. ที่ตามมา”

 

กองกำลังผสม ที่นำโดยอัคหมัด มาซูด ลูกชายของ ชาห์  มาซูด  ได้ให้คำมั่นที่จะต่อสู้กับกลุ่มตาลีบันต่อไป หลังจากที่ตาลีบันเกือบจะยึดครองทั้งอัฟกานิสถานได้ในปัจจุบัน

 

ในบทบรรณาธิการของวอชิงตันโพสต์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มาซูด วัย 32 ปี ได้อุทธรณ์ต่อกองกำลังตะวันตกเพื่อขอความช่วยเหลือในการต่อสู้ครั้งนี้ โดยบอกว่าสมาชิกของกองทัพอัฟกัน รวมถึงบางคนจากหน่วยกองกำลังพิเศษชั้นยอด ได้ระดมกำลังกันมาด้วยสาเหตุนี้

“เรามีกระสุนและอาวุธที่เราเก็บสะสมมาอย่างอดทนตั้งแต่สมัยพ่อของผม เพราะเรารู้ว่าวันนี้อาจจะมาถึง หากพวกขุนศึกตาลีบันเปิดฉากโจมตี ก็แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องเผชิญการต่อต้านอย่างแข็งขันจากเรา "

 

อดีตรองประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน อัมรุลเลาะห์ ซาเละห์  ซึ่งเกิดในปัญจชีร์ และฝึกฝนที่นั่นก่อนที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำหน่วยข่าวกรองของอัฟกานิสถานในท้ายที่สุด ก็ได้หลบหนีไปยังปัญจชีร์หลังจากที่กรุงคาบูลตกเป็นของกลุ่มตาลีบัน

 

แต่สนามแข่งได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พื้นที่ภูเขาทางเหนือของเมืองหลวงขณะนี้ถูกกองกำลังของตาลีบันแทรกเข้าไป และต้ดเส้นทางการลำเลียงที่สำคัญที่เข้าไปยังภูมิภาคนี้

 

วาซีร์ อัคบาร์ โมห์มานด์ อดีตพันตรีในกองทัพอัฟกานิสถานที่เข้าร่วมกับกลุ่มต่อต้านในปัญจชีร์บอกในทวีตเมื่อวันจันทร์ว่า: " พวกซุ่มยิง ตำแหน่งปืนใหญ่ที่กั้นถนน และทหาร 20,000 นายพร้อมที่จะต่อสู้"

 

เมื่อวันเสาร์ นักเขียนชาวฝรั่งเศส แบร์นาร์ด -อองรี เลวี่ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มพันธมิตรทางเหนือมาอย่างยาวนาน ทวีตว่า " ผมเพิ่งคุยกับอัคหมัด มาซูดทางโทรศัพท์ เขาบอกผมว่า ' ผมเป็นลูกชายของอัคหมัด ชาห์ มาซูด การยอมแพ้ไม่ใช่ส่วนหนึ่งในคำศัพท์ของผม '"

ปัญจชีร์ หนึ่งเดียวที่ยืนหยัดสู้ตาลีบันมา 2 ทศวรรษ

เมื่อวันจันทร์ ตาลีบันอ้างว่าได้ยึดพื้นที่ 3 แห่งของหุบเขาปัญจชีร์จากกลุ่มพันธมิตรทางเหนือได้ โฆษกตาลีบัน ซาบีฮุลเลาะห์ มูจาฮิด ทวีตว่า “เขตบานู , เบล ฮิซาร์ และเด ซาลาห์ ได้รับการชำระล้างจากความชั่วร้ายโดยสิ้นเชิงแล้ว”

 

ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มตาลีบันได้เคลื่อนย้ายกำลังเข้าไปเสริมในภูมิภาคดังกล่าว โดยเรียกร้องให้กลุ่มพันธมิตรทางเหนือและผู้นำกลุ่มยอมจำนน “ตอนนี้มูจาฮิดีนแห่งบาดัคชาน , ตาคาร์ และบักลัน ประจำการอยู่ที่ประตูเมืองปัญจชีร์แล้ว” 

 

เขาปฏิเสธคำกล่าวอ้างของซาเละห์ที่บอกว่าช่องเขาสลัง ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญถูกปิดกั้น โดยบอกว่ามันถูกเปิดแล้ว และ "ศัตรูถูกปิดล้อม"

 

โฆษกกลุ่มตาลีบันยังบอกอีกว่า: "รัฐอิสลามพยายามที่จะแก้ไขวิกฤติอย่างสันติ"

 

ซูฮาอิล ชาฮีน โฆษกกลุ่มตาลีบันอีกคนหนึ่งบอกว่า “การพิชิตปัญจชีร์ด้วยกำลังจะเป็นทางเลือกสุดท้าย เนื่องจากเป็นการขัดต่อนโยบายของเรา เราจะพยายามอย่างดีที่สุดที่จะไม่ไปทางนั้น”

 

ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มาซูดบอกว่าเขาเปิดกว้างสำหรับการเจรจา ตราบเท่าที่กลุ่มตาลีบันสัญญาว่าจะตั้งรัฐบาลที่ครอบคลุมสำหรับประชาชนทุกกลุ่ม แต่ผู้สนับสนุนของเขาก็พร้อมที่จะต่อสู้ 

“พวกเขาต้องการที่จะปกป้อง พวกเขาต้องการต่อสู้ พวกเขาต้องการต่อต้านระบอบเผด็จการใด ๆ” 

 

ผู้อาวุโสจากปัญจชีร์มาที่กรุงคาบูลในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเพื่อตรวจสอบถึงการประนีประนอมที่อาจจะเป็นไปได้ แต่จนถึงตอนนี้ความพยายามของพวกเขายังไม่ประสบความสำเร็จ

 

เมื่อวันอาทิตย์ โฆษกของกลุ่มแนวร่วมต่อต้านแห่งชาติ (NRF) ของมาซูดบอกว่าพวกเขาเชื่อว่ารัฐบาลที่กระจายอำนาจเป็น "ทางออกเดียว"

 

อาลี นาซารี โฆษก NRF  บอกว่า “เราสนับสนุนสันติภาพ แต่สันติภาพไม่ได้หมายถึงการยอมจำนนต่อข้อเรียกร้องของศัตรู และกองกำลังที่จะครอบงำการเมืองของประเทศ เงื่อนไขของเราเพื่อสันติภาพที่ยั่งยืนในอัฟกานิสถานคือการกระจายอำนาจและความมั่งคั่ง ประชาธิปไตย พหุนิยมทางการเมือง และวัฒนธรรม " 

 

นาซารีเสริมว่า NRF เชื่อว่า "ภัยคุกคามจากการก่อการร้ายระหว่างประเทศกำลังเพิ่มขึ้น และจะคุกคามผลประโยชน์และแผ่นดินของสหรัฐฯ อีกครั้ง" เขาเรียกร้องให้ตะวันตก "ร่วมมือกับ NRF เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ 9/11 ซ้ำอีกครั้ง " 

ปัญจชีร์ หนึ่งเดียวที่ยืนหยัดสู้ตาลีบันมา 2 ทศวรรษ

logoline