หลังแผ่อิทธิพลเข้าไปในทะเลจีนใต้ ด้วยการเข้าสร้างเกาะเทียมและสิ่งปลูกสร้างทางทหาร สร้างความไม่พอใจให้หลายประเทศที่อ้างกรรมสิทธิ์ ได้แก่ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน ตลอดจนไต้หวัน ล่าสุดจีนได้รุกคืบด้วยซอฟต์พาวเวอร์ ด้วยการเข้าไปสร้างร้านอาหารแนวหม้อไฟขนาด 120 ที่นั่ง บนเกาะวู้ดดี (Woody Island) เพื่อให้บริการพลเมืองจีนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
สื่อฮ่องกง South China Morning Post รายงานว่า การเปิดร้านหม้อไฟ "ควนไจ๋ เซียนจื่อ" (Kuanzhai Xiangzi) บนเกาะวู้ดดีเมื่อเดือนเมษายน ซึ่งเป็นพื้นที่ธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในทะเลจีนใต้ สร้างความไม่พอใจให้เวียดนามที่เป็นทั้้งคู่ปรับ และถูกยึดครองพื้นที่และน่านน้ำบริเวณนี้ไปเมื่อเกือบ 50 ปีก่อน
ร้านหม้อไฟแห่งนี้ได้รับความนิยมเนื่องจากใช้วัตถุดิบที่สด ทั้งเนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผัก ที่ปรุงในน้ำซุป สำหรับลูกค้าที่มากันเป็นกลุ่ม ๆ รายงานระบุว่าการเปิดร้านหม้อไฟ นับเป็นการผลักดันในแนวทางที่นุ่มนวลของจีน ในการอ้างกรรมสิทธิ์ในน่านน้ำที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ที่รู้จักกันในชื่อ "เส้นประ 9 เส้น" นอกเหนือจากการผลักดันด้วยการเสริมกำลังทหาร
เกาะวู้ดดี เป็นหนึ่งในหมู่เกาะพาราเซล (Paracel Islands) ทำหน้าที่เป็นสำนักงานใหญ่ให้กับเมืองส่านชา ที่จีนตั้งขึ้นเมื่อปี 2555 เพื่อบริหารเกาะทั้งหมดที่จีนอ้างกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของในทะเลจีนใต้และน่านน้ำโดยรอบ
หมู่เกาะพาราเซลหรือที่จีนเรียกว่า หมู่เกาะสีชา (Xisha Islands) ถูกอ้างกรรมสิทธิ์โดยจีน เวียดนามและไต้หวัน แต่ถูกจีนยึดไปตั้งแต่ปี 2517 หลังจากองทัพจีนเอาชนะกองทัพเรือของเวียดนามใต้ ในการปะทะกันช่วงสั้น ๆ ที่คร่าชีวิตทหารเรือเวียดนามไปกว่า 50 คน จีนยังยึดครองพื้นที่บางส่วนของหมู่เกาะสแปรตลีย์ (Spratly Islands) ที่จีนเรียกว่าหมู่เกาะหนานชา ที่เพื่อนบ้านอื่น ๆ เช่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ก็อ้างกรรมสิทธิ์เช่นกัน
ฝั่ม ทู ฮัง รองโฆษกกระทรวงต่างประเทศของเวียดนาม แถลงว่าเวียดนามมีกฎหมายพื้นฐาน และหลักฐานทางประวัติศาสตร์เพียงพอที่จะยืนยันอำนาจอธิปไตยของเวียดนาม เหนือหมู่เกาะพาราเซลและหมู่เกาะสแปรตลีย์ และจะใช้มาตรการที่เหมาะสมที่เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อรับประกันสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของเวียดนาม
รายงานของ South China Morning Post ยังอ้างการเปิดเผยของ หวัง ผานผาน ผู้บริหารของเมืองส่านชา ที่เผยแพร่ผ่านไห่หนานทีวี ว่าร้านหม้อไฟแห่งนี้จะช่วยเสริมสร้างวัตถุดิบ และวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของทหาร ตำรวจ และผู้คนบนเกาะ
ปัจจุบันเกาะวู้ดดีมีประชากรเพิ่มขึ้นจาก 1,000 คน สมัยที่เริ่มตั้งเมืองส่านชาใหม่ ๆ เมื่อปี 2555 เป็นประมาณ 2,300 คน ในปี 2563 ขณะที่จีนยังคงเดินหน้าพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งการเปิดสนามบินพลเรือนกึ่งทหาร เมื่อปี 2557 เปิดโรงเรียนอนุบาลและโรงเรียนประถม เมื่อปี 2558 และยังสร้างศาล, โรงภาพยนตร์, ธนาคาร, โรงพยาบาล, สำนักงานไปรษณีย์ และสนามกีฬา