แดน ฮาร์ต ซีอีโอ ของเวอร์จิน ออร์บิต (Virgin Orbit) แจ้งพนักงานระหว่างการประชุมในบ่ายวันพฤหัสบดี (30 มีนาคม 2566) ว่าหลังจาก ไม่สามารถหาเงินทุนเพื่อดำเนินกิจการต่อไปได้ จึงจำเป็นต้องใช้มาตรการที่เจ็บปวดรุนแรงและทันที ซึ่งจะมีการปลดพนักงานในทุกแผนกเกือบ 90%
เอกสารที่บริษัทแจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ระบุว่า จะมีการปลดพนักงาน 675 ตำแหน่ง หรือเกือบ 85% และโฆษกของเวอร์จิน ออร์บิต ยืนยันตามที่สื่อรายงานว่า บริษัทจะยุติการดำเนินงานในอนาคตอันใกล้จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้เวอร์จิน ออร์บิต ได้เตรียมความช่วยเหลือสำหรับการเลิกจ้างพนักงาน ด้วยการจ่ายชดเชยเป็นเงินสด ขยายผลประโยชน์ต่าง ๆ และหางานตำแหน่งใหม่ให้ใน บริษัทเวอร์จิน กาแล็กติก ที่อยู่ในกลุ่มบริษัทเวอร์จินของมหาเศรษฐี ริชาร์ด แบรนด์สัน
หลังการประกาศของเวอร์จิน ออร์บิต ทำให้ผู้ถือหุ้นแห่เทขายหุ้นอย่างหนักในช่วงหลังปิดตลาดเมื่อวันพฤหัสบดี (30 มีนาคม 2566) ทำให้ราคาหุ้นร่วง 44% ส่วนราคาปิดตลาดในช่วงการซื้อขายปกติอยู่ที่ 34 เซนต์ หรือดิ่งลง 82% นับจากต้นปีนี้
เวอร์จิน ออร์บิต ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 และเป็นหนึ่งในบริษัทผลิตจรวดของสหรัฐฯ เพียงไม่กี่แห่ง ที่ปล่อยจรวดขนส่งที่พัฒนาขึ้นด้วยเงินทุนของเอกชนขึ้นสู่วงโคจรได้สำเร็จ และเวอร์จิน ออร์บิต ปล่อยจรวดขึ้นสู่วงโคจรรวม 6 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2563 ประสบความสำเร็จ 4 ครั้ง และล้มเหลว 2 ครั้ง
เวอร์จิน ออร์บิต พัฒนาระบบที่ใช้เครื่องบินโบอิ้ง 747 มาดัดแปลงให้สามารถส่งดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศ ด้วยการปล่อยจรวดสำหรับส่งดาวเทียมจากใต้ปีกเครื่องบินระหว่างบินอยู่กลางอากาศ แต่ภารกิจครั้งสุดท้ายประสบความล้มเหลว โดยการปล่อยจรวดไปไม่ถึงวงโคจรและตกลงสู่มหาสมุทร