ขณะที่มีทั้งกลุ่มผู้สนับสนุน และผู้ประท้วงจากกลุ่มสนับสนุนการประกาศเอกราชของไต้หวันรวมตัวที่สนามบินด้วย โดยตำรวจอนุญาตให้ผู้ชุมนุมชูป้ายประท้วงภายในสนามบินได้ช่วงสั้น ๆ ก่อนผลักดันให้ออกไปจากพื้นที่
นายหม่า ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีช่วงปี 2551-2559 จะเป็นอดีตประธานาธิบดีหรือประธานาธิบดีคนแรกของไต้หวันที่เยือนจีน นับจากรัฐบาลจีนคณะชาติหนีไปยังไต้หวันในปี 2492 ในช่วงสิ้นสุดสงครามกลางเมืองกับพรรคคอมมิวนิสต์
การเยือนจีนของเขามีขึ้นในช่วงที่ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไต้หวันกำลังตึงเครียด โดยจีนเพิ่มแรงกดดันมากขึ้นทั้งทางการทหารและการเมืองต่อไต้หวัน ที่จีนมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของจีน
นอกจากนี้เมื่อวันอาทิตย์ฮอนดูรัส ซึ่งเป็นพันธมิตรของไต้หวัน เพิ่งสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับจีน และตัดความสัมพันธ์กับไต้หวัน ทำให้ไต้หวันเหลือพันธมิตรเพียง 13 ประเทศที่ให้การรับรองไต้หวัน
แม้การเยือนของเขาเป็นการเยือนส่วนตัว แต่มีความหมายในเชิงสัญลักษณ์ ในสมัยที่เขาปกครองไต้หวัน มีการพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดกับจีน และในปี 2558 นายหม่าได้พบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างผู้นำจากก๊กมินตั๋ง และผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ นับจากสิ้นสุดสงครามกลางเมือง
แต่เมื่อพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ชนะการเลือกตั้งและเข้าบริหารไต้หวันในปี 2559 จีนก็เริ่มเพิ่มแรงกดดันทั้งเศรษฐกิจ การทูต และทางทหารต่อไต้หวัน
ขณะที่ภูมิรัฐศาสตร์ในไต้หวันอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยในเดือนม.ค.ปีหน้า จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหม่ และประธานาธิบดีไช่ ไม่สามารถลงสมัครเลือกตั้งได้อีกสมัยภายใต้ข้อจำกัดรับตำแหน่งได้เพียง 2 สมัยติดต่อกัน