หนังสือพิมพ์รัสซี สกายา กาเซียตา (Rossiyskaya Gazeta), สำนักข่าว RT และสำนักข่าวเรีย โนวอสติ (RIA Novosti) ของรัสเซีย ได้เผยแพร่บทที่ลงนามโดย ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ในหัวข้อ "ก้าวไปข้างหน้าเพื่อเปิดบทใหม่ของมิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนาร่วมกันระหว่างจีน-รัสเซีย" (Forging Ahead to Open a New Chapter of China-Russia Friendship, Cooperation and Common Development) ก่อนหน้าที่เขาจะเดินทางไปเยือนรัสซียอย่างเป็นทางการ
บทความชิ้นนี้ถือเป็นการกำหนดทิศทางการเดินทางเยือนรัสเซียของประธานาธิบดีสี ในระหว่างวันที่ 20-22 มีนาคม 2566 โดยระบุว่ารัสเซียเป็นประเทศแรกที่เขาไปเยือน หลังจากได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีเมื่อ 10 ปีก่อน และในช่วงกว่า 10 ปีมานี้ เขาได้ไปเยือนรัสเซียถึง 8 ครั้ง การไปทุกครั้งได้ตั้งความหวังไว้สูงและกลับมาพร้อมกับความสำเร็จ เป็นการเปิดบทใหม่สำหรับความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย ร่วมกับ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน
ในบทความระบุถึงการเป็นเพื่อนบ้านที่ใหญ่ที่สุดของกันและกัน และเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมในการประสานงาน เป็นประเทศสำคัญในโลกและเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ทั้งสองประเทศยึดถือนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระ และมองว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศมีความสำคัญสูงสุดในทางการทูต
เนื้อหาของบทความระบุด้วยว่า โลกทุกวันนี้กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในรอบศตวรรษ ทิศทางของประวัติศาสตร์ที่ประกอบด้วยอำนาจหลายขั้ว (multi-polarity) มีสันติภาพ, การพัฒนาและมีความร่วมมือที่ก่อประโยชน์แก่ทุกฝ่าย
บทความระบุว่า โลกกำลังเผชิญปัญหาท้าทายด้านความมั่นคง ทั้งในรูปแบบที่มีมาแต่เดิมและในรูปแบบใหม่ ที่รวมถึงการแสดงพฤติกรรม "ความเป็นเจ้าโลก" (hegemony) การครอบงำ และการกลั่นแกล้ง ตลอดจนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยาวนานและคดเคี้ยว ซึ่งประเทศต่าง ๆ มีความกังวลอย่างมากและกระตือรือร้นที่จะหาทางออกร่วมกันเพื่อให้รอดพ้นจากวิกฤต
สำนักข่าว RT ระบุว่า บทความของประธานาธิบดีสีเท่ากับเป็นการประกาศจุดยืนไม่ยอมให้ชาติใดชาติหนึ่งมาตั้งกติการะหว่างประเทศ และการอ้างถึงความเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกที่มีอำนาจหลายขั้ว ก็เป็นการพุ่งเป้าไปยังสหรัฐฯ ที่กำลังมีปัญหาขัดแย้งกับสหรัฐฯ ทั้งเรื่องวิกฤตสงครามยูเครน ที่สหรัฐฯ กล่าวหาว่าจีนให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่รัสเซีย ทั้งยังไม่ยอมรับแผนสันติภาพ 12 ข้อ ของจีนด้วย และขณะที่สหรัฐฯ กับพันธมิตรพยายามกดดันให้จีนประณามรัสเซียที่บุกยูเครน แต่สหรัฐฯ ได้เข้าไปก้าวก่ายเรื่องไต้หวันที่จีนถือเป็นดินแดนอธิปไตยของตน
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ก็มีบทความที่เผยแพร่ People's Daily สื่อของทางการจีน ในหัวข้อ Russia and China : A Future-Bound Partnership ระบุว่า เขาดีใจที่ได้คว้าโอกาสที่ได้พูดคุยกับชาวจีนที่เป็นมิตร ผ่านหนึ่งในสื่อระดับโลกที่ใหญ่และทรงอำนาจมากที่สุด ก่อนการเยือนรัสเซียของประธานาธิบดีสี ซึ่งเหตุการณ์สำคัญนี้ได้ตอกย้ำคุณลักษณะพิเศษของความเป็นหุ้นส่วนระหว่างรัสเซียกับจีน ที่สร้างขึ้นจากความไว้วางใจซึ่งกันและกัน การเคารพในอำนาจอธิปไตยและผลประโยชน์ของกันและกันมาโดยตลอด
ผู้นำรัสเซียระบุถึงวิกฤตการณ์ในยูเครนด้วยว่า ถูกยั่วยุและชักใยอย่างขันแข็งโดยชาติตะวันตก แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เด่นชัดที่สุดเพียงอย่างเดียว แต่ยังแสดงถึงความปรารถนาที่จะรักษาอิทธิพลระหว่างประเทศและระเบียบโลกขั้วเดียว จากการที่ NATO (องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ) มุ่งมั่นที่จะเข้าถึงกิจกรรมทั่วโลก และพยายามที่จะเจาะเอเชียแปซิฟิก มีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะแยกพื้นที่เอเชียออกเป็นเครือข่ายของ "สโมสรเฉพาะกิจ" (exclusive club) ซึ่งหมายถึงมาดึงประเทศในแถบนี้ไปเข้ากลุ่ม ซึ่งในบทความของเขาได้เน้นย้ำความสัมพันธ์กับจีนว่ามีความแน่นแฟ้นและก้าวไปสู่ระดับสูงสุดแล้ว