svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

เศรษฐกิจโลกเผชิญความเสี่ยงควร"หลบภัย" หุ้นกลุ่มไหนดี

13 มกราคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยเฉพาะฟรีวีซ่าจะช่วยผลักดันให้การท่องเที่ยวของไทยฟื้นตัวมากแค่ไหน ขณะที่สถานการณ์สงครามยังเป็นปัจจัยเสี่ยง นักลงทุนควรจะลงทุน อย่างไรจากภาวะความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก

ภาวะเศรษฐกิจโลกในปีมังกรเริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง หลังวิกฤตโควิด-19 ได้ผ่านไปแล้ว เห็นได้จากภาครัฐงัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มกำลังซื้อกันอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การเดินทางระหว่างประเทศมีมากขึ้นเห็นได้จากสายการบินได้เพิ่มเที่ยวบิน ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวกันอย่างคึกคัก   

แต่อัตราดอกเบี้ยที่หลายประเทศยังคงอยู่ในระดับสูง ประกอบกับปัจจัยความขัดแย้งระหว่างประเทศอื่น ๆ ยังคงเป็นแรงกดดันให้ในภาพรวมเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยอาจมีปัญหาสะดุดหรือฟื้นได้ไม่เต็มที่

หากมองถึงนโยบายของทางภาครัฐที่น่าสนใจ ช่วยกันผลักดันให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น ดังนี้

•    นโยบายฟรีวีซ่า

ไทยถือเป็นประเทศที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ ทั้งจากวัฒนธรรม อาหารและทรัพยากรธรรมชาติ โดยก่อนเกิดการระบาดโควิด-19 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเฉลี่ยสูงถึง 40 ล้านคนต่อปี แม้ตัวเลขประมาณการในปีนี้จะเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนหน้า แต่ยังต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งกว่าจะกลับไปสู่ระดับก่อนเกิดโควิด-19

อย่างไรก็ดี ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 66 ที่ผ่านมา แนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาที่ไทย ก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งจากฤดูท่องเที่ยวและมาตรการฟรีวีซ่า หนุนตลาดการท่องเที่ยวไทยให้เป็นบวก คาดว่าจะส่งผลอย่างชัดเจนในปีนี้

เศรษฐกิจโลกเผชิญความเสี่ยงควร\"หลบภัย\" หุ้นกลุ่มไหนดี
นอกจากนี้ นโยบายฟรีวีซ่า ทำให้ประเทศไทยได้เปิดตลาดนักท่องเที่ยวใหม่ เช่น นักท่องเที่ยวจากรัสเซีย ซึ่งเติบโตจากที่ผ่านมาถึง 7% สูงกว่าช่วงก่อนโควิด-19 แม้สัดส่วน โดยรวมเมื่อเทียบของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดจะยังไม่ถึง 1% แต่ถือเป็นตลาดใหม่และยังมีโอกาสเติบโตสูงขึ้นอีกในอนาคต

ขณะที่ ตลาดนักท่องเที่ยวจีนก็ยังอยู่ในระดับดี โดยช่วงปลายปีที่ผ่านมา คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาถึง 4 ล้านคน จากประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด 27.6 ล้านคน คาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากฤดูท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่วงของเทศกาลตรุษจีนในปีนี้

ซึ่งโจทย์สำคัญที่ท้าทายผู้ประกอบการในภาคการท่องเที่ยวก็คือ การเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อหัวให้สูงขึ้น เช่น พัฒนาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพ ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าในระยะยาวและดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงได้ 

อย่างไรก็ดี ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวไม่เป็นไปตามคาด เช่น เศรษฐกิจของประเทศต้นทางของนักท่องเที่ยวที่อาจจะชะลอตัว ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่อาจกดดันนักท่องเที่ยวจากอิสราเอลที่เป็นตลาดสำคัญของไทย เนื่องจากมีสัดส่วนการใช้จ่ายต่อคนสูง รวมถึงการแข่งขันการท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่สูงขึ้น เป็นต้น
 

เศรษฐกิจโลกเผชิญความเสี่ยงควร\"หลบภัย\" หุ้นกลุ่มไหนดี

- นโยบายบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของครัวเรือน

ดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้จัดทำขึ้นในเดือนตุลาคม 66 ที่ผ่านมา พบว่าปรับตัวดีขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ที่ 38.5 จากเดือนกันยายน 66 ที่ 37.4 แต่ยังต่ำกว่าระดับก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยครัวเรือนกังวลเรื่องการใช้จ่ายลดลง สอดคล้องกับองค์ประกอบของดัชนีที่ปรับตัวดีขึ้นทุกองค์ประกอบ อาทิ เงินออม รายได้ ราคาสินค้า ค่าใช้จ่ายไม่รวมหนี้ของครัวเรือน  

ทั้งนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้สำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของครัวเรือนที่จะเกิดขึ้น กรณีที่รัฐฯ ยังคงมีมาตรการอยู่ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 66 ที่ผ่านมาพบว่าการใช้จ่ายจะมีผลต่อเนื่องยาวถึงปีหน้า โดยกว่า 39.7% มองว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้จ่าย เนื่องจากมีสินค้าที่ต้องใช้จ่ายประจำอยู่แล้ว รองลงมาคือ รอติดตามความชัดเจนมาตรการของภาครัฐ

อย่างไรก็ตาม ครัวเรือนส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายกับการท่องเที่ยวและการสังสรรค์เพิ่มขึ้น จากฤดูท่องเที่ยวและวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา  คาดว่าดัชนีดังกล่าวจะยังมีโอกาสฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง

สำหรับความท้าทายของการฟื้นตัวของดัชนีดังกล่าวยังคงมีอยู่ จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งหากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสรุนแรงอาจกดดันให้ราคาพลังงานในตลาดผันผวน ความไม่ชัดเจนในมาตรการของภาครัฐอาจบั่นทอนมุมมองเชิงบวกของครัวเรือนต่อการใช้จ่ายในระยะข้างหน้าได้ ซึ่งยังเป็นปัจจัยที่ยังคงต้องติดตามต่อไป

ด้านคำแนะนำการลงทุนในภาวะที่ยังมีความไม่แน่นอน ทั้งความไม่ชัดเจนในหลายนโยบายของภาครัฐฯ หรือความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นได้ในระดับโลก จึงแนะนำลงทุนในกลุ่ม Mid-small cap ที่ปัจจัยพื้นฐานไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ผ่านกองทุน ASP-SME ที่ลงทุนในหุ้นกลุ่มขนาดกลาง-เล็ก มีการบริหารเชิงรุก

เน้นลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี เติบโตสูง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่คาดว่าจะได้อานิสงส์จากมาตการของภาครัฐ สอดคล้องกับโอกาสที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวได้ช้ากว่าดัชนีหุ้นโลกและเศรษฐกิจไทยที่จะฟื้นตัวจากมาตรการภาครัฐฯ ด้วย

 

ที่มาบทความ  ํ: โดย นที ดำรงกิจการ
Executive Director, Head of Financial Advisory, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย

logoline