svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

เปิด 3 กลยุทธ์ลงทุนในครึ่งปีหลังรับความท้าทายโลก

31 กรกฎาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังผันผวน เงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น หลายประเทศทยอยการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งการหาผลตอบแทนการลงทุนเพิ่มเม็ดเงินในกระเป๋าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในวันนี้เนชั่นออนไลน์มีกูรูมาแนะนำเคล็ดลับการลงทุนจะมีรายละเอียดอย่างไรนั้นไปดูกันเลย

ผ่านไปแล้วสำหรับครึ่งแรกของปี 2023 และเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของปีอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบัน ยังคงมีความผันผวนและไม่แน่นอน อันเกิดจากหลายปัจจัยต่อเนื่องกัน นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ผลตอบแทนจากการลงทุนในหลายๆ สินทรัพย์ได้รับผลกระทบ

อย่างไรก็ดี ยังคงมีสินทรัพย์บางประเภทที่ทำผลงานได้ดีในช่วงเวลาที่ผ่านมา และคาดว่าอาจจะทำได้ดีต่อไปในอนาคต ซึ่ง KBank Private Banking ได้สรุปแนวทางการลงทุนสำหรับครึ่งปีหลังไว้ 3 ทางเลือก ดังนี้

1.ปัจจัยจากเศรษฐกิจที่ยังคงมีความผันผวนจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้กลุ่มตราสารหนี้หรือพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้เอกชนมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

  • พันธบัตรรัฐบาลระยะยาว 5-10 ปี ถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ปลอดภัยและยังช่วยกระจายความเสี่ยงให้พอร์ตลงทุนได้อย่างดี หากเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะชะลอตัวรุนแรง
  • หุ้นกู้อันดับความน่าเชื่อถือดีในประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยมีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ ระดับลงทุนได้ (Investment Grade Credit) เนื่องจากระดับผลตอบแทนมีความน่าสนใจจากอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม หุ้นกู้ในกลุ่ม High Yield ยังมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากเศรษฐกิจชะลอตัว
  • ตราสารหนี้สกุลเงินท้องถิ่นของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ มองว่าผลตอบแทนอยู่ในระดับที่น่าสนใจรวมถึงสามารถช่วยกระจายความเสี่ยงได้ดี

เปิด 3 กลยุทธ์ลงทุนในครึ่งปีหลังรับความท้าทายโลก

2. ปัจจัยจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง การลงทุนในธุรกิจที่สร้างยั่งยืนให้กับโลกกลายเป็นเรื่องที่สำคัญมากขึ้น ทำให้หุ้นที่เกี่ยวเนื่องกับความยั่งยืน มีโอกาสเติบโตได้ดีในระยะยาว กลายเป็น Mega trends อย่างไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ในอนาคต

  • การลงทุนในธุรกิจที่สร้างยั่งยืน โดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานสะอาด อาทิ พลังงานลม พลังงานแสงอา ทิตย์ เป็นต้น รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • การลงทุนที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชา กรและสังคม การดูแลสุขภาพ รวมถึงการเพิ่มคุณภาพชีวิตและลดความเหลื่อมล้ำ นวัตกรรมและการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อให้การใช้ทรัพยากรที่มีจำกัดเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

เปิด 3 กลยุทธ์ลงทุนในครึ่งปีหลังรับความท้าทายโลก

  1. ปัจจัยจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน อาทิ เงินเฟ้อ หรือภาวะตลาดที่มีความผันผวน ทำให้หุ้นที่อยู่นอกตลาดหุ้นสหรัฐฯ รวมถึงการลงทุนทางเลือก (Alternative Investment) น่าสนใจยิ่งขึ้น
  • การลงทุนในหุ้นนอกตลาดสหรัฐฯ เช่น หุ้นในภูมิภาคเอเชีย จีน และไทย เนื่องจากภายหลังราคาหุ้นในตลาดสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมาก ในขณะที่ตลาดหุ้นอื่นมีปัจจัยพื้นฐานเฉพาะตัวสนับสนุน จึงประเมินว่ามีโอกาสในการเติบโตที่มากกว่า
  • การลงทุนในเฮดจ์ฟันด์ (Hedge Funds) ด้วยกลยุทธ์การลงทุนที่ทำได้ทั้ง Long (ซื้อ-เมื่อคาดว่าราคาสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้น) และ Short (ขาย-เมื่อคาดว่าราคาสินทรัพย์จะลดลง) บนสินทรัพย์ที่หลากหลายทั้งหุ้น ตราสารหนี้ และสกุลเงิน โดยผู้จัดการกองทุนสามารถตัดสินใจจากการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน หรือ การใช้โมเดลทางคณิตศาสตร์ที่ใช้ข้อมูลปริมาณมากจับสัญญาณการซื้อขาย ซึ่งคาดสามารถช่วยสร้างผลตอบแทนและกระจายความเสี่ยงของพอร์ตจากความผันผวนระยะสั้นในตลาดได้
  • การลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาด (Private Assets) ที่ราคาของสินทรัพย์ไม่ขึ้นอยู่กับภาวะตลาด แต่จะขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานที่แท้จริงของธุรกิจที่เข้าไปลงทุน

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงปลายวัฏจักรของเศรษฐกิจในปี 2023 นี้ KBank Private Banking ยังคงแนะนำให้ลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายทั่วโลก

โดยเฉพาะกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เข้าใกล้จุดสูงสุด กลุ่มธีม Mega Trends กลุ่มการลงทุนทางเลือกต่าง ๆ ที่มีกลไกการบรหารพอร์ต การลงทุนเชิงรุกและมีความยืดหยุ่นสูงสามารถปรับพอร์ตการลงทุนตามการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่ค่อนข้างผันผวน เพื่อให้สามารถตอบรับได้ดีกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต


ที่มา : บทความโดย  นที ดำรงกิจการ

Executive Director, Head of Financial Advisory, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย

 

logoline