svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เช็กเสียงโหวต ชี้วัด "กก.แพทยสภา" ลงมติ ปมวีโต้ลงโทษแพทย์รักษา"ทักษิณ ชั้น14"

เช็กเสียงโหวต "กรรมการแพทยสภา" กรณี "สมศักดิ์" สภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา วีโต้"มติแพทยสภา"ลงโทษแพทย์ รักษา "ทักษิณชั้น 14 แนวโน้มชี้ขาด 12 มิ.ย.นี้

12 มิถุนายน 2568 การประชุมกรรมการแพทยสภา เดิมเป็นการประชุมปกติที่ถูกกำหนดขึ้นเดือนละครั้ง ในวันพฤหัสบดี หากแต่การประชุมแพทยสภาในวันที่ 12 มิถุนายน กลับมีความน่าสนใจเป็นพิเศษ

เนื่องจากมีวาระการพิจารณา การวีโต้ของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา ต่อมติกรรมการแพทยสภา ที่ลงโทษ นายแพทย์ ที่ทำการรักษานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ (มติเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568)

สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะ  สภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา

ย้อนกลับไปที่ มติกรรมการแพทยสภา เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568

1.มติยกข้อกล่าวหาแพทย์ 1 คน

2.มติให้ลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน กรณีประกอบวิชาชีพเวชกรรมไม่ได้มาตรฐาน และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน เนื่องจากให้ข้อมูลหรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง

แพทยสภา ทำหนังสือถึงนายสมศักดิ์  ในฐานะสภานายกพิเศษแพทยสภา เข้าร่วมประชุมชี้แจงรายงานการวีโต้มติแพทยสภา

การประชุมแพทยสภาวันที่ 12 มิถุนายน จะเริ่มขึ้นประมาณเวลา  11.30น. มีการบรรจุระเบียบวาระการประชุม 100 กว่าวาระ แต่ในช่วงเริ่มต้นจะเป็นวาระเพื่อทราบ และวาระนี้เอง คือ การให้นายสมศักดิ์ ในฐานะสภานายกฯพิเศษแห่งแพทยสภา เข้ามาชี้แจงเหตุผลการวีโต้ มติแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ซึ่งนายสมศักดิ์ได้สิทธิ์ชี้แจง 15 นาที เนื่องจากวาระเพื่อทราบกำหนดไว้แล้ว 12.00 -12.15 น. จากนั้น กรรมการแพทยสภา จะเชิญ นายสมศักดิ์ ออกจากที่ประชุม

เมื่อนายสมศักดิ์ ออกจากที่ประชุม จึงเป็นไปได้ว่า กรรมการแพทยสภา จะได้นำวาระพิจารณา การวีโต้ขึ้นมาพิจารณาต่อเนื่องกันไปเลย โดยจะเปิดให้ กรรมการแพทยสภาอภิปรายแสดงความเห็น รายงานวีโต้ของนายสมศักดิ์ ก่อนลงมติ ซึ่งการลงมติต่อประเด็นการวีโต้นั้น จะต้องได้คะแนนเสียง 2 ใน 3 ของกรรมการแพทยสภาทั้งหมด หรือราว 47 คน จากทั้งหมด 70 คน นั่นเอง

แนวโน้มการลงมติ

เป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน ที่แพทยสภาลงมติลงโทษแพทย์ รักษาทักษิณชั้น 14 จนกระทั่งนายสมศักดิ์ ได้ทำการวีโต้ ปรากฎความเคลื่อนไหวอย่างชัดเจน เกิดแรงกระเพื่อมในแวดวงการเมืองและวงการแพทย์ ทั้งเสียงวิพากษ์วิจารณ์สะพัดถึงผู้มีอำนาจทางการเมืองพยายามวิ่งเต้นล็อบบี้ แพทยสภา พร้อมกับมีการปล่อยข่าวดิสเครดิต กรรมการแพทยสภาบางราย เพื่อให้เห็นถึงความไม่ชอบธรรมในการลงมติ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา

ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์  นายกแพทยสภา

แต่ในขณะเดียวกัน กระแสวิพากษ์วิจารณ์ความพยายามล็อบบี้ หรือดิสเครดิต แพทยสภา กับกลายเป็นมูมเบอแรงสะท้อนกลับ ปลุกบรรดาแพทย์จากหลายสถาบัน รวมถึง ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน และประชาชน ออกมาเคลื่อนไหวเข้าชื่อ ปกป้องสนับสนุนแพทยสภาในการทำหน้าที่ คงมติเมื่อวันที่ 8  พฤษภาคม 2568

จากการตรวจสอบการลงมติในวันที่ 12 มิถุนายนนั้น ล่าสุดพบว่า กรรมการแพทยสภา มีทั้งสิ้น 70 คน แต่มีหนึ่งท่านที่ถูกมติลงโทษ จึงทำให้ที่ประชุมเหลือ 69 คน โดยมติต่อประเด็นการวีโต้นั้น จะต้องได้คะแนนเสียง 2 ใน 3 ของกรรมการแพทยสภาทั้งหมด หรือราว 47 คน

กรรมการแพทยสภา ที่มาจากการแต่งตั้ง 35 คน และ เลือกตั้ง 35 คน

เมื่อพิจารณาจากองค์ประกอบ กรรมการแพทยสภา พบว่า มาจากการแต่งตั้ง 35 คน และเลือกตั้ง 35 คน

กรรมการแพทยสภา ในส่วนของการแต่งตั้ง ประกอบด้วย ในก.สาธารณสุข 3 คน/ เจ้ากรมแพทย์ 3 คน / ผอ. วพม. (พระมงกุฏ ) 1 คน /ตำรวจ 1 คน ( คือหมอที่ถูกลงโทษหักออกไม่เข้าประชุม) ฝั่งเลือกตั้ง ทำงานในกระทรวง 3 คน (จะมา 2 คน)

สถานการณ์ของกลุ่มนี้ อาจลาประชุมหรือส่งผู้แทนเข้าร่วมประชุม หรือใช้วิธีงดออกเสียง ซึ่งรวมแล้ว เสียงจะหายไปประมาณ +- 8 ถึง 12 เสียง ( แต่อาจมีบางคนเปลี่ยนใจ)

ขณะที่กลุ่มคณบดีแพทย์สถาบันต่างๆ 27 คน +1 (ผอ.วพม.) โดย 27 คน จากวงใน คณบดีแพทย์สถาบันต่างๆ ยืนยันเดินทางมาร่วมประชุม ความน่าสนใจของ 27 คน ถือเป็นกลุ่มรวมตัวแข็งแรงมากยากที่จะถูกล็อบบี้ เพราะอย่าลืมว่าหลายท่านเปรียบเป็นอาจารย์ใหญ่สอนจริยธรรมการแพทย์ ให้นักศึกษาแพทย์ทั่วประเทศ หากมีมติเป็นอย่างอื่นจะสอนนิสิตแพทย์ได้อย่างไร

นักวิเคราะห์ทางการเมือง และคนวงในสมาชิกแพทยสภา พิจารณา จากโครงสร้างและพฤติการณ์ กรรมการแพทยสภา จึงสรุปเป็นสมการ

กรรมการแพทยสภา 69 คน หักกลุ่มงดออก เสียง 12 (ประเมินสูง) คน = 57 คน

มติที่ประชุม ต้องใช้เสียง 2ใน 3 ของที่ประชุม คือ 47 คน

ฉะนั้นกรรมการแพทยสภา ยังมีเสียงเพียงพอ ในการยืนตามมติลงโทษเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ตามเดิม

อย่าลืมว่า มติเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม68 ซึ่ง ศ.ดร. นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา  อุปนายกแพทยสภาคนที่หนึ่ง เคยออกมาแถลงสื่อมวลชนว่า "เป็นมติมากมากมาก"  แม้ไม่ได้เปิดเผยตัวเลข แต่จากการสืบทราบภายหลังว่า มติลงโทษครั้งนั้นมีจำนวนเสียงถึง 49 คน

ตามข้อบังคับการประชุม ที่ระบุ การยืนตามมติเดิมของแพทยสภา ต้องใช้เสียง 2ใน 3 ของจำนวนกรรมการทั้งคณะ หรือ 47 คนขึ้นไป

เมื่อสถานการณ์ ณ ขณะนี้ มีการพัฒนาขึ้นกลายเป็นการต่อสู้ยืนหลักการความถูก - ผิด การยึดหลักจริยธรรมทางการแพทย์ และการรักษาเกียรติภูมิของคนในวงการทางการแพทย์ กับ ผู้ที่ใช้อำนาจทางการเมืองเข้าโรมรัน

อาจเป็นไปได้ว่า การลงคะแนน จะมีมากกว่า 47 เสียง ขณะที่บรรดาแพทย์วงนอก แพทยสภา ยังประเมินว่า คะแนนน่าจะออกมา 3 ใน 3 หรือ เอกฉันท์มากมากมาก อีกครั้ง