12 มิถุนายน 2568 กรณีที่คณะกรรมการแพทยสภา จะประชุม เวลา 10.00 น. โดยมีวาระพิจารณามติลงโทษแพทย์ 3 คนที่เกี่ยวข้องกับการรักษา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ
หลังวีโต้ จาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ โหวตยับยั้งมติดังกล่าว
กรรมการแพทยสภา มีทั้งสิ้น 70 คน ครบองค์ประชุม คือ มีผู้เข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง หรือ 35 คน จากกรรมการทั้งหมด 70 คน
ขณะที่ การยืนยันมติเดิมของแพทยสภา ต้องมีเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการแพทยสภาทั้งคณะ หรือ 47 คนขึ้นไป
หากได้เสียงไม่ถึง 47 เสียง เท่ากับว่า มติกรรมการแพทยสภาเดิมที่ให้ลงโทษแพทย์ 3 คน นำมาใช้บังคับไม่ได้
และกรรมการแพทยสภาต้องนัดประชุมอีกครั้ง เพื่อพิจารณาบทลงโทษใหม่
แต่หากได้เสียงเกินกว่า 2 ใน 3 เท่ากับว่ายืนยันตามมติแพทย์สภาเดิม ให้ลงโทษแพทย์ 3 คน จาก 4 คน
อย่างไรก็ดี ในการลงมติกรรมการที่มีส่วนได้เสีย ต้องงดออกเสียง หรือออกนอกห้องประชุม
ทั้งนี้ การพักใช้ใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพเวชกรรม จะมีกำหนดเวลาตามที่คณะกรรมการแพทยสภาเห็นสมควร แต่ไม่เกิน 2 ปี หรือเป็นการเว้นวรรค การรักษาคนไข้นั่นเอง
กรรมการแพทยสภาโดยตำแหน่ง 35 คน ประกอบด้วย
กรรมการแพทยสภาโดยการเลือกตั้งของสมาชิก 35 คน มีวาระดำรงตำแหน่งคราวละ 2 ปี (ปี 2568-2570)
ทั้งนี้ คณะกรรมการแพทยสภามี ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ เป็นนายกแพทยสภา , ศ.ดร นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา คนที่ 1 , ศ.คลินิก นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ อุปนายกแพทยสภา คนที่ 2 และ พล.อ.ท. นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา
กรรมการแพทยสภาโดยตำแหน่ง
กรรมการแพทยสภาโดยการเลือกตั้ง