9 มิถุนายน 2568 นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ สมาชิกแพทยสภา เปิดเผยเนชั่นทีวีถึงกระบวนการประชุมแพทยสภา วันที่ 12 มิถุนายน 2568 ซึ่งจะมีวารพิจารณา การวีโต้มติแพทยสภาที่เคยลงโทษแพทย์ 3 ท่านกรณีการรักษานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยฝ่ายเลขานุการ จะมีการจัดทำสำเนาแจก ส่วนที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะ สภานายกพิเศษแพทยสภา ให้สัมภาษณ์สื่อว่าจะขอเข้าร่วมประชุมกก.แพทยสภา ด้วยนั้น ท่านอาจใช้สิทธิตามมาตรา 24 ของพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม นายสมศักดิ์ สามาถเข้าไปชี้แจงอภิปรายเหตุผลประกอบได้ว่า ทำไมถึง วีโต หรือสามารถทำหนังสือ แสดงความเห็นต่อแพทยสภาได้ เป็นตามสิทธิตามมาตรา 24 แต่เมื่อจะมีการประชุมลงมติแพทยสภา ท่านอาจได้รับการเชิญออก และกระบวนการลงมติ มีการเปิดเผย ส่วนจะลงมติลับต้องใช้เสียงเกิน 1 ใน 3 ของที่ประชุม
นพ.ตุลย์ยังได้ ประเมินการลงมติแพทยสภา วันที่ 12 มิ.ย.ด้วยว่า แม้นายสมศักดิ์จะเข้าประชุมวันที่ 12 มิ.ย.แต่เชื่อว่าจะไม่มีผลต่อการโน้มน้าวมติแพทยสภา เพราะเขาคงไปพูดมาก่อนหน้านี้แล้ว กับคนในกระทรวงท่าน สำหรับการประชุมกก.แพทยสภา มีสิทธิที่แต่ละท่านจะมีการอภิปราย ซักถามเพิ่มเติม ส่วนที่มีข่าวจะมีคนยื่นอุทธรณ์ถือว่าเลยขั้นตอนไปแล้ว เชื่อว่าการลงคะแนนครั้งนี้ จะแบ่งเป็น 3 มติ
1. ผู้ที่ไม่ลงโทษอะไรเลย ไม่มีการวีโต้ กรณีนี้น่าจะผ่านความเห็นชอบอย่างรวดเร็ว
2. ผู้ที่ถูกตักเตือน อาจเห็นด้วยกลับไปเลยไม่ต้องตักเตือน
3. กรณี พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ อดีตแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ เปิดพื้นที่ชั้น14 รักษาอาการป่วยทักษิณ ที่มีการวีโต้ไม่ให้ลงโทษเลย ประเด็นนี้อาจมีการอภิปรายเยอะหน่อย เพราะอาจมีความเห็นแย้งได้ ซึ่งขอย้ำว่า ครั้งนี้ไม่ใช่ลงโทษใหม่ แต่เป็นการเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับมติเดิม
ตอกหน้า “ธนกฤต” เผย ชวนสอนกม.วิชาชีพเวชกรรม จนได้เกรด A
นพ.ตุลย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรมต.สาธารณสุข บอกให้ตนไปเรียนกฎหมายใหม่ นั้น อยากบอกว่า กฎหมายเดียวที่หมอตุลย์และแพทย์จุฬาฯทุกคนได้เรียนคือ พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พศ. 2525 ในวิชานิติเวชศาสตร์ สอนโดยคุณครู ชื่อ ท่านชวน หลีกภัย ที่สำคัญ ซึ่งสอบได้เกรด A วิชานี้ด้วย
ก่อนหน้านี้ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ออกมาโต้แย้ง กรณีที่ นายกิตติกร โล่ห์สุนทร เลขานุการ รมว.สาธารณสุข ได้ส่งบันทึกถึงผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้ตรวจสอบจริยธรรมของผู้บประกอบวิชาชีพเวชกรรมและกรรมการแพทยสภา โดยให้ความเห็นว่า รมว.สาธารณสุข ไม่มีอำนาจหน้าที่ใดๆในการพิจารณาจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและกรรมการแพทยสภา ทำให้ นายกองตรีธนกฤต ออกมาแนะนำนพ.ตุลย์ ให้ไปเรียนวิชานี้ใหม่
ขณะที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ถึงประเด็นนี้เช่นกันว่า หากไม่มีอำนาจก็สบายจะได้ไม่ต้องทำ แต่ที่ต้องทำเพราะมันมีอำนาจตามกฎหมาย อย่ามาโต้เถียงกันเลยขอให้มาพบพูดคุยกัน