svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

โฆษกกต.ชี้ เงื่อนไขปล่อยตัวประกันฮามาส-อิสราเอลยังสวนทางกัน

17 พฤศจิกายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้เงื่อนไขปล่อยตัวประกันฮามาส-อิสราเอลยังสวนทางกัน หวังช่วงเวลาหยุดยิง "เชลยศึก" ได้รับอิสรภาพ

17 พ.ย.66 นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงความคืบหน้าการช่วยเหลือตัวประกันคนไทย 25 ที่ยังคงถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไปในเหตุความรุนแรงตะวันออกกลาง ระหว่างอิสราเอล-กาซา ว่า จะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เพราะเงื่อนไขระหว่างอิสราเอลกับฮามาสยังสวนทางกัน โดยฮามาสยังคงย้ำกับอิสราเอลว่าจะต้องหยุดยิง แต่อิสราเอลก็ไม่ตอบรับเงื่อนไขดังกล่าว และกลุ่มฮามาสจะต้องปล่อยตัวประกันโดยไม่มีเงื่อนไข

รวมถึงยังคงมีการยิงโต้ตอบระหว่างกลุ่มฮิสบอเลาะห์ และอิสราเอลอยู่บ้าง โดยหวังว่าในช่วงการหยุดยิงระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมนั้นจะมีการส่งความช่วยเหลือและเคลื่อนอพยพบ้าง 
หวังช่วงเวลาหยุดยิง "เชลยศึก" ได้รับอิสรภาพ
ส่วนจำนวนคนไทยที่เสียชีวิตนั้น ยังคงอยู่ที่ 39 ราย โดยได้ส่งร่างผู้เสียชีวิตกลับถึงประเทศไทยทั้งหมดแล้ว ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บยังคงเหลือรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 3 คน ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเทลอาวีฟ เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด รวมถึงจะมีการช่วยติดตามสิทธิ และผลประโยชน์ที่แรงงานไทยจะได้รับตามกฎหมายอิสราเอลต่อไป 

นอกจากนั้น กรมการกงสุล ยังได้มอบเข็มกลัดเชิดชูเกียรติในการประกาศเกียรติคุณ และเสื้อที่ระลึก "กงสุลอาสา" ให้กับน.ส.วิภาวดี วรรณชัย หรือ พี่แจ๋ม คนไทยในอิสราเอล ที่เคยให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยในการขับรถรับ-ส่ง แรงงานไทยออกจากพื้นที่สู้รบในฉนวนกาซาจนได้รับความปลอดภัย
หวังช่วงเวลาหยุดยิง "เชลยศึก" ได้รับอิสรภาพ
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังกล่าวถึงคนไทยที่ยังคงตัดสินใจพำนักอยู่ในอิสราเอลขณะนี้มีประมาณ 20,000 คน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ทะเลทรายเอราว่า ซึ่งประเมินสถานการณ์แล้วว่า จรวดโจมตีไม่สามารถมาถึงได้ และน่าจะเป็นพื้นที่ปลอดภัย แต่ก็ยังมีคนไทยอยู่กลุ่มหนึ่งประมาณ 390 คน ที่อยู่ในพื้นที่ฉนวนกาซาไม่ประสงค์จะกลับ เนื่องจากเชื่อมั่นในนายจ้าง โดยสถานทูตได้ติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา หากแรงงานดังกล่าวเปลี่ยนใจ ก็สามารถติดต่อสถานทูตเพื่อเดินทางกลับได้ 

อย่างไรก็ตาม วันที่ 22-23 พ.ย.นี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ด้านการเมือง มีกำหนดเดินทางเยือนประเทศไทย โดยมีกำหนดเข้าพบนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

พร้อมมั่นใจว่าการเดินทางเยือนครั้งนี้จะไม่กระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-อิสราเอล เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างไทย-อิหร่านนั้น มีมานานตั้งแต่อดีต 400 ปีแล้ว และในการเยือนดังกล่าวนี้ คาดว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะได้มีการหยิบยกสถานการณ์ในอิสราเอล-กาซา และการช่วยเหลือตัวประกันไทยมาหารือร่วมกันด้วย 

logoline