svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ฟานซิปัน" เศรษฐกิจท่องเที่ยวบนหลังคาอินโดจีน โดย ส.ว.พลเดช  ปิ่นประทีป

25 มิถุนายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"เวียดนาม" ประเทศเพื่อนบ้านที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างน่าจับตามอง โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว "ฟานซิปัน"รัฐบาลเวียดนามทุ่มทุนสร้างเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดสำหรับประชากรกลุ่มประเทศอาเซียน

สมาคมสื่อมวลชนบักเจียงตั้งใจที่จะพาคณะของเราไปสัมผัสยอดเขา"ฟานซิปัน" ยอดสูงสุดที่เสมือนเป็นหลังคาของอินโดจีน เป็นจุดท่องเที่ยวที่รัฐบาลเวียดนามทุ่มทุนสร้างเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดสำหรับประชากรกลุ่มประเทศอาเซียน ทำให้คิดคำนึงถึงเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภูเก็ตบ้านเราว่า ทำอย่างไรจะยั่งยืนและเป็นธรรมสำหรับคนฐานล่าง

หล่าวกาย(Lao Cai) อยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขา

จังหวัดเหล่ากาย

หล่าวกาย(Lao Cai) อยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขา พื้นที่ 6,383 ตารางกิโลเมตร ประชากรราว 6 แสนคน มีพรมแดนติดกับมณฑลยูนนานของประเทศจีน เมืองหล่าวกายเป็นเมืองการค้าชายแดน ส่วนซาปาเป็นเมืองภูเขาที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว สมญานามราชินีแห่งภูเขา หล่าวกายมีชายแดนติดกับเมืองเหอโข่ว มณฑลยูนนานของจีน เมืองชายแดนแห่งนี้เคยถูกปิดยาวหลังเหตุการณ์จีนทำสงครามสั่งสอนเวียดนามในปี พ.ศ. 2522 โดยครั้งนั้นจีนส่งกองทัพบุกเวียดนามตามเส้นทางนี้ นัยว่าเป็นการตรึงกำลังกองทัพเวียดนามไม่ให้บุกเข้ามายึดภาคอีสานของไทย 

เมื่อคราวที่ผู้เขียนไปปฏิบัติงานเป็นที่ปรึกษาโครงการต่อต้านโรคเอดส์ที่มณฑลยูนนานให้กับองค์การยูนิเซฟ พรรคพวกที่นั่นเคยพาเราเข้ามาที่เมืองเหอโขว่ ยังได้ลงเดินมาสัมผัสบรรยากาศของสะพานข้ามแม่น้ำแดงที่เชื่อมสองเมืองคนละฟากฝั่ง

เมืองซาปา

อำเภอซาปา(Sa Pa) มีภูมิประเทศแบบเทือกเขา เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาฮวงเหลียนเซินทางตะวันออกสุดของเทือกเขาหิมาลัย เป็นที่ตั้งของน ยอดเขาที่สูงที่สุดในเวียดนาม ที่ 3,143 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีจุดเด่นอยู่ที่วิถีการทำนาขั้นบันไดตามเนินเขาของประชากรชนเผ่า หลากหลาย มากมาย และน่าทึ่ง ทำให้เป็นภูมิทัศน์ที่สวยงาม แปลกตา ดึงดูดนักท่องเที่ยว 

เดิมซาปาเป็นเมืองตากอากาศของเจ้านายชั้นสูงชาวฝรั่งเศสที่มาทำงานในเวียดนาม จึงมีสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนและการวางผังเมืองแบบอาณานิคมฝรั่งเศส มีโบสถ์คาทอลิกที่โดดเด่นตั้งอยู่กลางเมือง  ชุมชนตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ระดับความสูงโดยเฉลี่ย 1,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ลักษณะโดยทั่วไปอบอุ่นชื้นและมีฝนตกในฤดูร้อน อบอุ่นและแห้งในฤดูหนาว บางปีมีหิมะตก

\"ฟานซิปัน\" เศรษฐกิจท่องเที่ยวบนหลังคาอินโดจีน โดย ส.ว.พลเดช  ปิ่นประทีป

เมืองซาปาเป็นชุมชนชาวเขาขนาดเล็กและเป็นถิ่นฐานบ้านเกิดของชนกลุ่มน้อยหลายเผ่าพันธุ์ มีประชากร 36,000 คน ประกอบไปด้วย ชาติพันธุ์ขิ่นห์  ม้ง เด่า เทย์ กาย และซาโผ  ในตัวเมืองมีประชากรเพียง 7,000 คน  ส่วนที่เหลือกระจายอยู่ตามชุมชนย่อยในเขตชนบท ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตรในภูมิประเทศที่ลาดชันในลักษณะเป็นขั้นบันได ผลผลิตหลักคือข้าวและข้าวโพด

\"ฟานซิปัน\" เศรษฐกิจท่องเที่ยวบนหลังคาอินโดจีน โดย ส.ว.พลเดช  ปิ่นประทีป

"ฟานซิปัน"

รัฐบาลเวียดนามลงทุนพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อยกระดับการท่องเที่ยวยอดเขาฟานซิปัน ให้เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยมอบหมายให้บริษัทซันเวิลด์ฟานซิปันเลเจนด์เป็นผู้บริหารงาน ประวัติศาสตร์การพิชิตยอดเขาและการก่อสร้างกลายเป็นตำนานที่สร้างความภาคภูมิใจแก่คนเวียดนามทั้งประเทศ
นั่งรถไฟโมโนเรลจากดาวน์ทาวน์ของเมืองซาปา ไปถึงฐาน Sun World Fansipan Legend จากนั้นเดินทางขึ้นไปยังฟานซิปันด้วยกระเช้าไฟฟ้า 20 นาที ระยะทาง 6 กิโลเมตร แต่การจะไปให้ถึงยอดสูงสุดของภูเขาต้องอาศัยการเดินเท้าต่อไปอีก 600 เมตรหรือจะขึ้นรถไฟโมโนเรลในทอดสุดท้ายอีกก็มีบริการให้

เช็คอินที่จุดพีรามิดแห่งยอดเขาฟานซิปัน ชมหอระฆังยักษ์ขนาดความสูงประมาณตึก 5 ชั้นหลอมมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์เจิ่น ในศตวรรษที่ 13 และ 14  กราบนมัสการพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม สูง 21 เมตร เนื้อสัมฤทธิ์ ใช้ทองแดงเป็นส่วนผสมกว่า 50 ตัน รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ รูปปั้นเหล่าอรหันต์และพระโพธิสัตว์ด้วยพุทธศิลป์เวียดนาม อีกทั้งเจดีย์แห่งฟานซิปัน และเสาธงที่อยู่สูงที่สุดในอินโดจีน ใช้หินอ่อนสีเขียวจากเมืองทัญฮว้าและไม้ 4 ชนิด ผืนธงที่สั่งทำเป็นพิเศษ

\"ฟานซิปัน\" เศรษฐกิจท่องเที่ยวบนหลังคาอินโดจีน โดย ส.ว.พลเดช  ปิ่นประทีป
 

เศรษฐกิจที่ยั่งยืน

ด้วยฐานทุนทางธรรมชาติและยอดเขาสูงสุดของฟานซิปัน  อีกทั้งวิถีชีวิตการเกษตรแบบขั้นบันไดของกลุ่มชาติพันธุ์ และศิลปะวัฒนธรรมที่มีลักษณะเฉพาะของเมืองซาปา บัดนี้รัฐบาลเวียดนามได้กำหนดให้เมืองแห่งนี้เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของประเทศโดยลงทุนไปอย่างมากมาย ทั้งในด้านเม็ดเงินงบประมาณและยอมสละทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปส่วนหนึ่ง มุ่งให้ทำหน้าที่เป็นเครื่องจักรปั้มการเติบโตของ GDP นำรายได้กลับมาพัฒนาประเทศ ดูไปก็คล้ายกับเมืองภูเก็ต พัทยา และพัฒน์พงษ์ของไทย

ประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่ว่า เมื่อท้องถิ่นต้องเสียฐานทุนบางอย่างไปเพื่อสร้างเศรษฐกิจชาติ ด้านหนึ่งทำอย่างไรเมืองท่องเที่ยวแบบนี้จะมีความยั่งยืน ทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของชุมชนพื้นเมือง ส่วนอีกด้านหนึ่ง ทำอย่างไรการเติบโตทางเศรษฐกิจดังกล่าว จะมีการกระจายรายได้กลับมาสู่ประชากรท้องถิ่นอย่างทั่วหน้าและเป็นธรรม
 

logoline