
26 เมษายน 2566 "นายพงศา ชูแนม" หัวหน้าพรรคกรีน พร้อมด้วย นายอภิรักษ์ แตงขาว รองหัวหน้าพรรค ได้มาเยือน "เนชั่นทีวี" เพื่อแนะนำตัวรวมถึงนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม เกี่ยวกับปัญหาโลกร้อน โดยย้ำว่า วันนี้ (26เม.ย.) โลกร้อนขึ้น แต่ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนแย่ลง พรรคมีแคมเปญ คือ "อยากทำให้โลกเย็นลง ชีวิตดีขึ้น" ซึ่งจะใช้ต้นไม้เป็นเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ เพื่อช่วยให้โลกเย็นขึ้น
ทั้งนี้ องค์กรระดับโลก เช่น คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ IPCC ระบุว่าหากจะทำให้โลกไม่ร้อนขึ้นไปกว่า 1.5 องศา จะต้องมีต้นไม้เพิ่มขึ้นอีก 8 แสนล้านต้น ซึ่งไทยจะต้องปลูกไร่ละ 100 ต้น แต่เป็นไปไม่ได้เพราะจะต้องมีประเทศไทย อีก 25 ประเทศ จึงอยากรณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันสร้างให้ต้นไม้ กลายเป็นเครื่องมือที่มีค่า ขณะยังมีชีวิต เพื่อจูงใจให้ประชาชนช่วยกันปลูกต้นไม้
"พรรคจึงผลักดันเป็น 10 แผนเศรษฐกิจกรีน เริ่มจากธนาคารต้นไม้ ให้ประชาชนปลูกต้นไม้แล้วนำมาเข้าธนาคารต้นไม้กับเรา ตามด้วยการรับรองมูลค่าของต้นไม้ที่ยืนต้นให้เป็นทรัพย์ โดยจะอยู่ภายใต้รูปแบบบัตรคนรวย ที่เรียกว่า ทรีแอสเซทการ์ด ก่อนจะให้รัฐบาลหมุนเลขออกมาเป็นหวยต้นไม้ ซึ่งเรียกว่า ทรีลอตโต้ โดยจัดทำหมายเลขต้นไม้ 15 หลักไม่ซ้ำกัน โดยจะหมุนในวันหยุดนักขัตฤกษ์ รางวัลละ 1 แสนบาท และยังมีโรงรับจำนำต้นไม้โดยให้ไม้ยืนต้นมีหลักประกันกฎหมายทางธุรกิจ" นายพงศา กล่าว
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าแผนงานเหล่านี้ จะช่วยให้มีการปลูกต้นไม้มากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว รวมทั้งยังมีแผนให้ประชาชนนำไม้ยืนต้นไปสร้างบ้าน โดยเริ่มต้นตั้งเป้าจะต้องได้บ้าน 1 ล้านหลังคาเรือน ซึ่งไม้ที่จะนำไปปลูกเป็นบ้าน สามารถนำเข้าธนาคารต้นไม้ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ พรรคกรีนจะส่งเสริมเหรียญทรีคอยล์ ซึ่งมีสกุลเงินคาร์บอนเคอเรนซี เพื่อออกมาสู้กับบิทคอยล์หรือสกุลเงินอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยให้ต้นไม้มีมูลค่าทางเศรษฐศาสตร์มากขึ้นด้วย โดยจะอยู่ภายใต้แคมเปญ 1 พันต้น ภายใน 3 ปี ต้องได้เงิน 1 ล้านบาท สำหรับประชาชนที่คิดจะปลูก หรือมีต้นไม้อยู่แล้ว เช่น ต้นยางพารา ต้นอาคาร์เซีย หรือ ไม้สัก รัฐบาลจะมีการการันตีมูลค่าต้นไม้ให้ล่วงหน้า โดยจะให้ต้นละ 1 พันบาท จะยิ่งช่วยเพิ่มค่าจีดีพีให้กับประเทศถึง 70-80%
"ต้นไม้เยอะเกินจะทำอย่างไร เราจะนำต้นไม้ไปเผาแล้วเข้าโรงไฟฟ้าชีวมวลระดับชุมชนต่อไป ปัจจุบันยังมีผู้ที่ถือครองที่ดินไม่ชอบด้วยกฎหมาย อยู่ราว 35 ล้านไร่ คนถือครอง 17 ล้านคน มีปัญหาเรื่องนี้มานานมาก ซึ่งเราจะเปลี่ยนให้ถูกกฎหมาย โดยให้สัมปทานปลูกป่ารายย่อย และยังมีแผนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ฉบับชนบท คือ กรีนเรียลเอสเตท สามารถแบ่งที่ขายได้ เพื่อรองรับคนเมืองที่คิดย้ายไปอยู่ โดยการสร้างบ้านไม้ให้มีชีวิตอยู่ใกล้ต้นไม้ โดยมีต้นไม้เป็นประกันทางธุรกิจ" นายพงศา กล่าว
หัวหน้าพรรค กล่าวด้วย พรรคตั้งเป้าจะส่งผู้สมัครลงครบ 4 เขต โดยมีใน จ.ชุมพร 1 เขต ซึ่งถือเป็นเมืองหลวงของพรรคกรีน และจ.ตรัง อีก 3 เขต และส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ 20 คน ซึ่งกระจายไปทั่วภูมิภาค เหนือ ใต้ กลาง และอีสานเท่า ๆ กัน ซี่งจากการลงพื้นที่นำเสนอนโยบาย ก็มีประชาชนตั้งคำถามว่าหากเลือกเข้าไปแล้วจะช่วยอะไรได้บ้าง แต่พรรคมองว่าเรื่องต้นไม้เป็นเรื่องบวก
ขณะเดียวกัน พรรคมั่นใจว่าโครงการดังกล่าว ผู้แทนกี่หมื่นคนก็ทำไม่ได้ เช่น ยกเลิกเรื่องไม้หวงห้าม ตนเองก็เป็นคนทำให้จนสำเร็จ ตอนที่ยังไม่ได้มาเป็น ส.ส. และเรื่องทำให้ต้นไม้มีมูลค่าทางทรัพย์ให้มีหลักประกันทางธุรกิจ ถ้าได้เข้าไปทำงานหน้าที่ในสภาฯ ก็ยังสานต่อเรื่องเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์สูงสุด นโยบายไม่ได้มีแค่เฉพาะคนต่างจังหวัดเท่านั้น ซึ่งคนเมืองในปัจจุบันมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบากขึ้น ถ้าจะได้เข้าเป็นรัฐจะช่วยจ่ายให้คนละ 100 บาท ต่อตางรางวา ต่อปี สำหรับผู้ที่มีพื้นที่สีเขียว เพื่อกระตุ้นให้คนสร้างพื้นที่สีเขียว
"สุดท้ายนี้หากประชาชนคิดว่าโลกร้อนขึ้นจริง ชีวิตกำลังมีปัญหาจริง ให้จำพรรคกรีนไว้ว่าจะช่วยให้โลกเย็นลงและชีวิตประชาชนดีขึ้น" นายพงศา กล่าว