svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เลือกตั้ง 66 : เขต 7 "ชัยภูมิ" ช้างชนทั้งโขลง!

"ชัยภูมิ"อีกหนึ่งในจังหวัดในดินแดนภาคอีสาน และเขตเพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งปี 62 จาก 6 เป็น 7 คน จึงกลายเป้าหมายสำคัญที่หลายพรรค ต่างอยากให้ผู้สมัครในสังกัดถูกรับเลือก เนื่องจากมีถึง 133 ที่นั่ง คิดเป็นสัดส่วนจำนวนเก้าอี้ ส.ส. มากที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร

ย้อนดูผลเลือกตั้งเมื่อปี 62 มีเพียง 2 พรรคที่แบ่งเก้าอี้ ส.ส.กันไป คือ เพื่อไทย 4 ที่นั่ง ในเขต 1, 4, 5, 6 และพลังประชารัฐ ได้ไป 2 ที่นั่ง ในเขต 2 และเขต 3 

แต่การเลือกตั้งรอบนี้ พื้นที่ที่ต้องจับตามากที่สุดกลับกลายเป็นเขตใหม่อย่าง เขตเลือกตั้งที่ 7 ประกอบด้วย อำเภอแก้งคร้อ อำเภอคอนสวรรค์ และอำเภอเมืองชัยภูมิ (เฉพาะตำบลท่าหินโงม และตำบลซับสีทอง)  

เลือกตั้ง 66 : เขต 7 "ชัยภูมิ" ช้างชนทั้งโขลง!

เพราะเป็นการชนกันของหลายค่ายใหญ่ที่ส่งขุนพลลงสนามประชันฝีมือ ไม่ต่างกับ "ศึกชนช้าง" แต่เป็นชนช้างหลายเชือก ไม่ใช่แค่สองเชือก

ส่องไปที่พรรคเพื่อไทย โยกแชมป์จากเขต 6 คือ "นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์" ดีกรี ส.ส. 9 สมัย อดีต รมช.สาธารณสุข และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" เข้ารับภารกิจแลนด์สไลด์

สุรวิทย์ คนสมบูรณ์

โดย "หมอสุรวิทย์" ต้องชนกับสหายเก่าอย่าง "หมอประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ" อดีต ส.ส. 6 สมัย และเป็นอีกหนึ่งตระกูลการเมืองเก่าแก่ของเมืองชัยภูมิ ซึ่งเคยสังกัดพรรคเพื่อไทย ก่อนย้ายมาภูมิใจไทย และสอบตกไปรอบที่แล้ว หลังลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 1 โดยพ่ายให้กับ "หมอโอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย" จากเพื่อไทย ตระกูลการเมืองคู่ปรับในพื้นที่ 

รอบนี้ "หมอประสิทธิ์" ย้ายมาลงเขต 7 และเปลี่ยนมาสวมแจ็คเก็ตรวมไทยสร้างชาติ หวังใช้กระแสลุงตู่มาสู้ศึก 

ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ

แต่ก็ใช่ว่าเส้นทางจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะพลังประชารัฐส่ง "อัครแสนคีรี โล่ห์วีระ" หรือ "แสน" หนุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ของ "อร่าม โล่ห์วีระ" นายก อบจ.ชัยภูมิ คนปัจจุบัน ที่มีดีกรีเป็นถึง อดีต รมช.คมนาคม สมัยรัฐบาล "บิ๊กจิ๋ว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ" มาเบียดชิงชัย

อัครแสนคีรี โล่ห์วีระ

โดยตระกูล "โล่ห์วีระ" ก็เป็นอีกหนึ่งตระกูลการเมืองใหญ่ของชัยภูมิเช่นกัน 

ศึกเลือกตั้งหนนี้ สายข่าวจากพื้นที่รายงานว่า "แสน อัครแสนคีรี" ทำงานเตรียมพร้อมมากว่า 2 ปี มีแต้มต่อที่พ่อเป็น นายก อบจ. นอกจากสร้างผลงานในเขตนี้ เพื่อเป็นฐานคะแนนเสียงให้ลูกแล้ว ยังมีเครือข่ายหัวคะแนนในกำมืออีกเพียบ บวกด้วยพื้นฐานการเงินเข้าขั้นเศรษฐี เรียกว่ามีทั้งกระแสและกระสุนพร้อมรบ   

ขณะที่ พรรคชาติไทยพัฒนา ส่ง "หมอบัณฑูรย์ เกียรติก้องชูชัย" อดีตกรรมการบริหารพรรคชาติไทย หลังหลุดบ่วงตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี กลับคืนสนาม ซึ่ง "เกียรติก้องชูชัย" เป็นตระกูลการเมืองใหญ่ในพื้นที่ ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว แต่ลงคนละพรรคกับ "โอชิษฐ์" แชมป์เขต 1 ของเพื่อไทย 

บัณฑูรย์ เกียรติก้องชูชัย

สำหรับ "หมอบัณฑูรย์" เป็นเสมือนหอกข้างแคร่ของ "หมอประสิทธิ์" ไม่ว่าจะเป็นการเมืองระดับชาติหรือท้องถิ่น งานนี้ถือว่าชนสนั่นกันอีกรอบ 

นอกจากนี้ ยังมีพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งส่ง "จอมจักรภพ เอกกุล" ที่พกกระแสคุณหญิงหน่อย และนโยบาย "บำนาญประชาชน" เดือนละ 3,000 บาท มาเป็นจุดขาย ส่วนก้าวไกลส่ง "เต้ย" กิตติรัช คำวงษ์ หนุ่มรุ่นใหม่ หวังปักธงสีส้ม และภูมิใจไทย ดัน "บุรี บุตะเขียว" มารับหน้าที่ตอกเสาเข็มให้ค่ายสีน้ำเงิน

จอมจักรภพ เอกกุล  

เขตนี้จึงกลายเป็นพื้นที่แข่งเดือด เพราะมีทั้งนักการเมือง “รุ่นใหม่” ชน “รุ่นเก๋า” และตระกูลการเมืองใหญ่ปะทะกันเอง