เปิดใจ “ชัยธวัช” ย้ำเงื่อนไข ไม่ร่วมรัฐบาลกับ “พรรคเผด็จการ”

โจทย์แลนด์สไลด์ของ “พรรคเพื่อไทย” จะชนะแบบถล่มทลายได้ ต้องเอาชนะ “พรรคก้าวไกล” ให้ได้ด้วย เพราะสองพรรคนี้มีฐานเสียงทับซ้อนกัน

แต่การจะเอาชนะ “พรรคก้าวไกล” เพื่อแลนด์สไลด์ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ “พรรคก้าวไกล” ไม่ต่างอะไรกับ “หนามยอกใจ” ของ “พรรคเพื่อไทย” ทั้งการมีฐานเสียงทับซ้อนกัน และจุดยืนทางการเมืองที่โดดเด่นกว่า ชัดเจนกว่า และใจถึง ถึงลูกถึงคนมากกว่า สะใจกลุ่มที่ไม่เอา “สู้ไปกราบไป” ซึ่งระยะหลังกลุ่มนี้มีเยอะ โดยเฉพาะ Gen Z กับ Gen Y

“ชัยธวัช ตุลาธน” เลขาธิการพรรคก้าวไกล เพิ่งให้สัมภาษณ์กับคอลัมน์ “ผ่าสมรภูมิเลือกตั้ง” ทางเนชั่นทีวี เมื่อเร็วๆ นี้ ทุกประเด็นแหลมคม ตรงไปตรงมา และทิ่มแทง “พรรคเพื่อไทย” อย่างเจ็บแสบไม่แพ้กัน

บทความที่น่าสนใจ

• ราคา “ประชานิยม” กับ “งบประมาณ” ที่ต้องจ่าย

• เลือกตั้ง 66 : “ศึกประชานิยม” ตัวเลขแห่งความหวัง พุ่งกระฉูด

• คณิตศาสตร์การเมือง ความน่าจะเป็นของ “พรรคเพื่อไทย” ในการเป็นรัฐบาล

โดยการสัมภาษณ์ดังกล่าว ได้บทสรุป 4 ข้อ เนื้อๆ เน้นๆ ดังนี้ 

1. ไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคที่มาจากทหาร หรือพรรคทหาร เพราะถ้ามีทหารอยู่ อยากมีประชาธิปไตยก็เป็นไปไม่ได้

2. ถ้า “พรรคเพื่อไทย” เป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล แล้วมี “พรรคพลังประชารัฐ” เข้ามาร่วม “พรรคก้าวไกล” พร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งนี่คือจุดยืนที่แฟนคลับ “พรรคเพื่อไทย” อยากได้ยินจาก “พรรคเพื่อไทย” บ้าง แต่ไม่เคยได้ยิน

3. ถ้า “พรรคภูมิใจไทย” มาร่วมรัฐบาล ก็ทำงานกันยาก เป็นตัวเลือกที่ไม่อยากเลือก ถือเป็นพรรคที่เป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะเคยตรวจสอบนโยบายที่ทำให้ประชาชนเสียประโยชน์เป็นหมื่นล้านแสนล้าน

4. เลือกตั้งปี 2562 ก้าวไกลได้ ส.ส. 30 เขต ปาร์ตี้ลิสต์ 51 คน รวมเป็น 81 ที่นั่ง แต่การเลือกตั้งปี 66 ตั้งเป้าเอาไว้สูงกว่านั้นมาก

-ภาคอีสาน ตั้งเป้า 40 – 50 เขต (จาก 133 ที่นั่ง) มั่นใจสื่อต้องเซอร์ไพรส์อย่างแน่นอน

-ภาคใต้ ต่ำสุด 3 ที่นั่ง หวังถึง 10 ที่นั่ง

-ภาคกลาง+ตะวันออก เป้าหมายไม่ต่ำกว่า 15 ที่นั่ง (ปี 62 ได้ 15 ที่นั่ง)

-กทม. มั่นใจว่าได้เกินครึ่ง (17 ที่นั่งขึ้นไป) จากปี 2562 ได้มา 9 ที่นั่ง

ทั้งหมดนี้คือตัวเลขคาดการณ์ต่ำสุด เพราะเป้าหมายรวมทั้งประเทศต้องการ 150 ที่นั่ง

แนววิเคราะห์ของ “กูรูการเมือง” และการทำงานของ “ทีมเนชั่นวิเคราะห์” กับ “ทีมเนชั่นโพล” ซึ่งเตรียมจะประกาศผลวิเคราะห์และผลโพลครั้งแรก หลังสงกรานต์ ไปในทิศทางเดียวกัน คือ

1. “พรรคเพื่อไทย” กับ “พรรคก้าวไกล” จะช่วงชิงกันเองในหลายๆ พื้นที่ ถ้าพรรคหนึ่งได้ ส.ส.มาก อีกพรรคจะได้น้อยลงตามสัดส่วนที่เสียเก้าอี้ให้อีกพรรคหนึ่ง

2.ฉะนั้นถ้า “พรรคก้าวไกล” ได้หลักร้อย หรือสูงถึง 150 ที่นั่ง “พรรคเพื่อไทย” จะไม่มีทางแลนด์สไลด์ได้เลย

3.เช่นเดียวกัน ถ้า “พรรคเพื่อไทย” แลนด์สไลด์ “พรรคก้าวไกล” จะได้ ส.ส.เลข 2 หลัก และน่าจะต่ำกว่า 50 อาจจะลงมาเหลือแค่ 30 บวก เท่านั้น

แนวโน้มแบบนี้ไม่เป็นผลดีกับ “พรรคเพื่อไทย” เพราะ “พรรคเพื่อไทย” มีนโยบายไม่จับมือกับ “พรรคก้าวไกล”  เนื่องจากมีเป้าหมาย “คนแดนไกลกลับบ้าน” การมีคะแนนผกผันกัน จึงไม่ได้ช่วย “พรรคเพื่อไทย” แต่ทำให้ “พรรคเพื่อไทย” ติดเงื่อนไขและข้อจำกัดทางการเมืองในการต้องไปจับมือกับ “พรรคลุงป้อม” นั่นเอง