“พรรคเพื่อชาติ” ใจป้ำ เปิดพื้นที่ให้พรรคเล็ก สื่อสารกับ ปชช.

“น.ส.ชุติมา กุมาร” โฆษกพรรคเพื่อชาติ แถลงข่าวและออกแถลงการณ์ในนาม “พรรคเพื่อชาติ” โดยระบุว่า เราเข้าใจดีว่าในช่วงปี 2566 นี้บรรยากาศการเลือกตั้งไม่ค่อยจะเอื้ออำนวยสักเท่าไหร่กับพรรคการเมืองขนาดเล็ก

และ “พรรคเพื่อชาติ” ก็ถือว่าเป็นพรรคการเมืองที่ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก เมื่อเทียบกับพรรคการเมืองอีกหลายๆ พรรค และก็ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนน้อยกว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมา ก็คือเมื่อช่วงปี 2562 วันนี้เราจึงนัดออกแถลงการณ์เป็นครั้งที่ 2

โดย “พรรคเพื่อชาติ” เห็นว่า พรรคการเมืองขนาดเล็กไม่มีที่ยืนในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ทั้งที่พรรคการเมืองขนาดเล็กหลายพรรคมีนโยบายที่ดีกว่าพรรคการเมืองใหญ่ด้วยซ้ำ แต่กลับไม่เคยได้รับโอกาสจากพี่น้องสื่อเพื่อให้ได้พื้นที่ในการนำเสนอนโยบายของพรรคกับประชาชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• "ลุงป้อม" รับบทพระเอก MV ซิงเกิ้ลใหม่ของพปชร. พร้อมฟังเพลง "37 นะ" ได้แล้ว

• เลือกตั้ง 66:เปิดสถิติลงทะเบียนใช้สิทธิ"เลือกตั้งล่วงหน้า" 2.35 ล้านคน

• ราคา “ประชานิยม” กับ “งบประมาณ” ที่ต้องจ่าย

ซึ่งผู้ที่เสียประโยชน์มากที่สุดก็คือพี่น้องประชาชน ที่จะสูญเสียโอกาสในการที่จะได้รับรู้และรับทราบนโยบายดีๆ ของพรรคการเมืองหลายๆ พรรค ที่มีความพร้อมที่จะนำเสนอให้ประชาชน ได้รับทราบเพื่อประกอบการพิจารณาในการที่จะไปลงคะแนนเสียงในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้

และเพราะ “พรรคเพื่อชาติ” ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ “พรรคเพื่อชาติ” จึงได้จัดสร้าง Live Policy center แห่งนี้ขึ้นที่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 12 เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า พรรคเพื่อชาติจะสาธิตให้ทุกคนได้ดูก่อนที่จะตัดสินใจเลือก ไม่ใช่ใช้วิธีพูดว่า เมื่อเป็นรัฐบาลแล้วจะทำ เพราะพรรคเพื่อชาติเล็งเห็นว่าปัญหาบางเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้และต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วน หรือปัญหาบางอย่างที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งทางงบประมาณในการแก้ไข 

ดังนั้น “พรรคเพื่อชาติ” จึงขอประกาศและออกแถลงการณ์ให้รับทราบโดยทั่วกันว่า “พรรคเพื่อชาติ” ประสงค์จะให้พื้นที่ในการนำเสนอนโยบายกับพรรคการเมืองขนาดเล็กทุกพรรคให้สามารถเข้ามาใช้พื้นที่ของพรรคเพื่อชาติได้

ด้าน “ร.อ.ดร.จารุพล เรืองสุวรรณ” ประธานยุทธศาสตร์พรรค กล่าวว่า ทุกวันนี้เราเข้าใจเรื่องวงการสื่อทั้งทางออนไลน์หรือทางทีวีก็ตามว่า มีเรื่องของมาร์เก็ตติ้งเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามกลไกที่สามารถเข้าใจได้

แต่ในการเลือกตั้งที่จะเป็นการเลือกตั้งที่ดีที่สุด ควรจะเป็น “ฟรีแอนด์แฟร์อิเลกชั่น” เพราะฉะนั้นความแฟร์มันไม่ได้จำกัดอยู่แค่พี่น้องประชาชนมีสิทธิเลือกตั้งเท่านั้น แต่ความแฟร์คือการที่ตัวพรรคการเมืองควรที่จะได้มีสิทธิ ควรจะได้มีโอกาสในการนำเสนอนโยบายให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเท่าเทียมกันด้วย

“ร.อ.ดร.จารุพล” กล่าวต่อว่า พรรคการเมืองในประเทศมีจำนวนค่อนข้างมาก ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าแต่ละพรรคการเมืองแม้จะมีอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน มีแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกัน แต่เชื่อว่าปลายทางคล้ายกันคือ ความต้องการที่จะให้พี่น้องประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ปัจจุบันด้วยโลกที่เปลี่ยนไป  ด้วยสื่อที่กลายเป็นมาร์เก็ตติ้ง ทำให้พรรคการเมืองไม่ได้รับโอกาสนำเสนอนโยบาย การขึ้นเวทีต่างๆ ซึ่งผลเสียก็เกิดกับประชาชน แทนที่ประชาชนจะมีโอกาสได้รับรู้และเห็นนโยบายหรืออุดมการณ์ดีๆ ของพรรคการเมือง ซึ่งบางทีวัดกันไม่ได้ด้วยขนาดของพรรคการเมือง เพราะขนาดของพรรคบางทีเป็นแค่จำนวนคน จำนวนเงิน แต่แนวทางในการแก้ไขปัญหาของพรรคการเมืองที่ดีๆ อาจจะไปอยู่ที่พรรคเล็กๆก็ได้

“พรรคเพื่อชาติ” เราจึงหารือกันว่า เรามีพื้นที่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 12 ซึ่งพื้นที่ของเราถูกออกแบบมาเพื่อที่จะนำเสนอนโยบายของพรรคเรา เพื่อเป็นพื้นที่ในการสาธิตเพื่อให้ประชาชนได้ดูก่อนที่จะตัดสินใจเลือกเรา ในตัวพื้นที่ก็มีฐานสำหรับทำกิจกรรมต่างๆได้

เราจึงหารือกันว่าจะเปิดโอกาสในแบบเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันให้พรรคการเมืองอื่นๆที่ไม่มีโอกาสออกสื่อ หรือ ขึ้นเวทีดีเบต มาใช้สถานที่ของเราได้ และเพื่อความยุติธรรมกับทุกพรรคการเมือง “พรรคเพื่อชาติ” ก็จะนำเครื่องหมายหรือโลโก้ที่สื่อถึง “พรรคเพื่อชาติ” ออกทั้งหมด และหากพรรคอื่นต้องการจะติดสื่อประชาสัมพันธ์ของพรรคตัวเองก็สามารถทำได้ทันที