ภูมิใจไทย ขอแต้มคนกรุง ! ชูนโยบายพัฒนาชุมชนแออัด ยกระดับคุณภาพชีวิต

“พรรคภูมิใจไทย” นำโดย “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย “นายสรอรรถ กลิ่นประทุม” ประธานคณะที่ปรึกษาพรรค , “นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์” , “นายศุภชัย ใจสมุทร” นายทะเบียนพรรค , “นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์” หัวหน้าทีม กทม. ลงพื้นที่ชุมชนสะและน้อย ซอยอ่อนนุช 54 เขตสวนหลวง ช่วย “นายมณฑล โพธิ์คาย” ผู้สมัครในพื้นที่ หาเสียงเลือกตั้ง โดยพบปะประชาชน และนำเสนอนโยบายท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่น

“นายอนุทิน” กล่าวว่า การลงพื้นที่ในกรุงเทพฯ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ จำเป็นต้องมีบุคลากรที่เข้าใจลึกซึ้งถึงพื้นที่ เข้าใจคนในพื้นที่ ถ้าไม่รู้จัก ไม่มีคนรู้ ไม่มีความรู้ รับรองว่า ทำงานลำบาก กรุงเทพฯ มีความสลับซับซ้อน สำหรับ “พรรคภูมิใจไทย” ไม่คิดว่ามันเหลือบ่ากว่าแรง เราเริ่มต้นจากพรรคอีสาน ต่อมาเข้ามาดูแลคนทั้งประเทศ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาให้คนไทยทุกภาค แล้วทำไมจะทำงานให้คนกรุงเทพฯ ไม่ได้

เรามีความมั่นใจจากความตั้งใจ จากฝีมือของเรา ปัญหาหลายอย่างที่เจอในต่างจังหวัด แล้วมาพบอีกครั้งในกรุงเทพฯ คิดว่าเราผ่านมาแล้ว แก้ให้ท่านได้แน่นอน แต่มันต้องมีผู้แทนของพรรคก่อน จึงมาขอโอกาสให้ได้เข้าไปทำงาน โดยเฉพาะกับ “นายมณฑล” ที่มีประสบการณ์เป็น ส.ส.มาแล้ว ถ้าได้กลับไปทำงาน ก็ถือว่าได้สานต่อสิ่งที่ได้ทำไว้ เป็นความต่อเนื่องในการทำงานเพื่อประชาชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• “ศักดิ์สยาม” ลั่น ภูมิใจไทย มีโอกาสสูง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

• “กนก” หวังเลือกตั้งครั้งหน้า "ก้าวข้ามความขัดแย้ง" ปัญหาประชาชนสำคัญกว่า

• เบื้องหลัง “อุ๊งอิ๊งค์”หาเสียงทรหด เตรียมปรับกลยุทธ์ใหม่"เลือกตั้ง66"

“หลายพื้นที่ที่เข้าไป พบเห็นปัญหาเรื่องที่ดินซึ่งประชาชนอาศัยอยู่นั้น มันทับซ้อน ทับที่กับรัฐ เป็นชุมชนแออัด คุณภาพชีวิตไม่ดี มันไม่ควรเกิดขึ้น ผมมองในเรื่องของการให้สัญญาเช่า ทำให้มันถูกต้อง อย่าปล่อยให้ปัญหาคาราคาซัง ทุกครัวเรือนต้องมีทะเบียนบ้าน ขอน้ำ ขอไฟ ได้เอง ไม่ต้องไปต่อเอากับคนอื่น แล้วต้องเสียเงินมากขึ้น ชุมชนแออัดอยู่กันอย่างหวาดกลัว หลบซ่อน มันต้องดีขึ้น คุณภาพชีวิตต้องดีขึ้น”

“นายอนุทิน” กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้สมัครทุกคนเลือกเอาคนที่ทำงานจริง คนที่มีหัวใจ ต้องการอาสาทำงานให้ประชาชน ทุกวัน ทางพรรคจะมีการประเมินผลงานของผู้สมัคร เพราะต้องการเห็นความตั้งใจของคนที่เราเลือกด้วย ซึ่งเมื่อคนพวกนี้ได้เข้าไปทำงาน มั่นใจได้ว่าจะเป็นการต่อยอดในสิ่งที่เขาทำไว้ตอนลงพื้นที่ เขาทำงานต่อได้เลย เลือกตั้งปี 2562 “พรรคภูมิใจไทย” มีผู้แทนฯ ใหม่ในหลายพื้นที่  แล้วก็ทำงานให้ประชาชน เราสร้างอะไรใหม่ๆ มากมาย ในพื้นที่ที่เข้าไปทำงาน อาทิ สะพาน เชื่อมพัทลุง-สงขลา และสะพานข้ามเกาะลันตา จ.กระบี่

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ “นายอนุทิน” ได้ลงพื้นที่ซอยประดิพัทธ์ 15 ชุมชนซอย แขวงสามเสนใน เขตพญาไท พบปะประชาชนร่วมกับ นางสาวภาดาท์ วรกานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.

สำหรับนโยบายของ “พรรคภูมิใจไทย” ประกอบไปด้วย ตั๋ว One Day Pass การกำหนดค่าโดยสารสาธารณะ รถ เรือ เริ่มต้น 15 บาท ตลอดวัน ไม่เกิน 50 บาท ส่วนรถไฟฟ้า เริ่ม 15 บาท ตลอดสาย ไม่เกิน 40 บาท , นโยบายพักหนี้ 3 ปี หยุดต้นปลอดดอกเบี้ยคนละไม่เกิน 1 ล้านบาท

การตั้งศูนย์ฟอกไตฟรี โดยจะมีการจัดตั้งศูนย์ฟอกไต 1 เขต 1 ศูนย์ ให้บริการประชาชนลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยและญาติ, ศูนย์ฉายรังสีมะเร็งฟรี เป็นการจัดตั้งศูนย์ ฉายรังสีรักษาโรคมะเร็งฟรี 1 จังหวัด 1 ศูนย์ ให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้ง่ายขึ้น ไปจนถึงการให้กรุงเทพฯ เป็นเขตสุขภาพที่ 13 และการสร้างโรงพยาบาลในพื้นที่มากขึ้น ให้ขยายการให้บริการให้ประชาชน

หลังคาโซล่าเซลล์ฟรีเป็นการติดตั้งหลังคาโซล่าเซลล์ทุกหลังคาเรือน ลดค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าไฟฟ้าเฉลี่ยหลังคาเรือนละ 450 บาทต่อเดือน, มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าผ่อนเดือนละ 100 บาท 60 งวด สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด และการเพิ่มค่าตอบแทน อสส.กรุงเทพฯ สนับสนุนคนอาสา เดือนละ 2,000 บาท เจ็บป่วยมีประกันดูแล การหารายได้เพิ่มได้ 3 กะ เปิดพื้นที่ใหม่ๆ ส่งเสริมการท่องเที่ยว

โดย “นายอนุทิน” ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ถึงกระแสการยุบสภาว่า "พรรคภูมิใจไทย" ทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด ลงพื้นที่ต่อเนื่อง เข้าหาประชาชน เรื่องยุบสภาทราบอยู่แล้วเลือกตั้งต้นเดือนพฤษภาคม แต่จะวันไหนก็สุดแล้วแต่ เพราะอำนาจการยุบสภาเป็นของนายกฯ เราไม่ก้าวล่วงกดดัน คิดอย่างเดียวทำงานให้มีผลงาน จัดเวลาไปพบปะประชาชน

ขอยืนยันว่าหลักๆ จะไม่ไปทะเลาะกับพรรคไหน ขึ้นเวทีไหนก็จะไม่พูดต่อว่าหรือด้อยค่าพรรคอื่น เพราะทุกพรรคก็ทำเพื่อประชาชน แต่วิธีการคือทำเพื่อความสงบของบ้านเมืองและเพื่อประชาชน ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะนำพาประเทศไปข้างหน้า

“หากไปจังหวัดไหนและไปด่าพรรคอื่น เปรียบเสมือนเราเข้าบ้านใครแล้วไปนั่งด่าคนในบ้าน เขาคงไม่ให้ดอกไม้หรอก”